ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ หลังผลผลิตอุตสาหกรรมกลุ่มยูโรโซนหดตัว

ข่าวต่างประเทศ Friday August 13, 2010 08:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ชะลอตัวลงในเดือนมิ.ย. และเศรษฐกิจกรีซหดตัวลงอย่างหนักในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆแทบทุกสกุล เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือน และจำนวนบ้านที่ถูกยึดในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2827 ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 11 ส.ค.ที่ระดับ 1.2832 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5572 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5619 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.75% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.840 เยน จากระดับของวันพุธที่ 85.200 เยน แต่ดิ่งลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0492 ฟรังค์ จากระดับ 1.0615 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8959 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.8960 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.63% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7083 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7128 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงหลังจากยูโรสแตทเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร หรือ กลุ่มยูโรโซน ลดลง 0.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากขยายตัว 1.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้น 0.6% ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติกรีซรายงานว่า เศรษฐกิจภายในประเทศหดตัวลง 1.5% ในไตรมาส 2 ปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก และหากเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจหดตัวลงถึง 3.5% ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการลงทุนและอัตราการอุปโภคบริโภคที่ชะลอตัวลง

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 7 ส.ค.เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 484,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 465,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 479,000 ราย ซึ่งเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าภาคเอกชนของสหรัฐยังคงลดการจ้างงาน

เรียลตี้แทรค อิงค์ (RealtyTrac Inc) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของสหรัฐรายงานว่า จำนวนบ้านที่ถูกยึดอันเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ พุ่งขึ้นเกือบ 4% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 325,229 หลัง ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ