หอการค้าติงรัฐปรับเป้าส่งออกสูงเกิน,แนะรับมือเงินบาทแข็งค่ากระทบส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday August 14, 2010 12:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ติงรัฐปรับเป้าหมายการส่งออกในปีนี้สูงมากเกินไป หลังล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ขยับเป้าหมายอีกครั้งจาก 19% เพิ่มเป็น 20% จากเดิมที่เคยกำหนดไว้เพียง 14% โดยมองว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจต่างประเทศช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยังมีความเปราะบาง

"เป็นเป้าที่สูงเกินไป เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศช่วงครึ่งปีหลังยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีข้อมูลเศรษฐกิจในด้านลบออกมาเป็นระยะ ส่วนตัวเลขการว่างงานก็ยังสูง 11% จึงเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่สามารถทำตามเป้าที่วางไว้ได้" นายพรศิลป์ กล่าว

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ประกาศปรับตัวเลขเป้าหมายการส่งออกปี 53 เป็นขยายตัวไม่น้อยกว่า 20% หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 183,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงขึ้นจากเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโต 19% หลังพบว่าการส่งออกช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวสูงถึง 36.6%

อย่างไรก็ตาม รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวอยู่ที่ 16% หรือมีมูลค่าประมาณ 1.78 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังแนะให้รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขันด้านการส่งออกกับประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น

"เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้จะทำให้ไทยได้รับผลกระทบในการแข่งขันกับภูมิภาค โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลกระทบชัดเจน คือ ข้าว และสินค้าเกษตร จะเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศเวียดนามแน่นอน เนื่องจากค่าเงินด่องของเวียดนามในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาอ่อนค่าลงกว่า 2% ขณะที่เงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นมากกว่า 7-10%" นายพรศิลป์ กล่าว

ปัจจุบันพบว่าการส่งออกข้าวของไทยแข่งขันกับเวียดนามไม่ได้หลายรายการ เนื่องจากไทยมีปัญหาเรื่องต้นทุนก่อนหน้านี้ และอัตราแลกเปลี่ยนกำลังกลายเป็นปัจจัยใหม่ด้วย ส่วนการแข่งขันกับประเทศอื่นนั้นไทยยังไม่เสียเปรียบแม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น

รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เงินบาทของไทยในปีนี้มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ