นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 65,672 คัน เพิ่มขึ้น 52.2% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 28,780 คัน เพิ่มขึ้น 64.1% รถเพื่อการพาณิชย์ 36,892 คัน เพิ่มขึ้น 44.0% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 31,115 คัน เพิ่มขึ้น 39.8%
ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคมเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงเศรษฐกิจของประเทศที่มีทิศทางดีขึ้น โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 28,780 คัน เพิ่มขึ้น 64.1% เป็นผลมาจากความนิยมต่อเนื่องในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ส่งผลให้อัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์นั่งโดยเฉลี่ยของปี2553 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 60 ด้านตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีปริมาณการขาย 36,892 คัน เพิ่มขึ้น 44.0% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประกอบกับการส่งเสริมการขายที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค
ขณะที่ตลาดรถยนต์ 7 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 422,364 คัน เพิ่มขึ้น 53.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 60.3% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 49.3% เป็นผลมาจากความต่อเนื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่สร้างสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจส่งผลให้รายได้ภาคครัวเรือนดีขึ้น ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี
นายวุฒิกร คาดว่าตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคมยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รุ่นใหม่ที่แนะนำมาตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องของบริษัทรถยนต์ต่างๆ ตลอดจนรายได้ภาคครัวเรือนที่ยังขยายตัวได้ดีตามการขยายตัวของการผลิตทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม
ด้วยปัจจัยต่างๆที่ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์รวมในประเทศในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทรถยนต์ได้ปรับเป้าหมายของตลาดรถยนต์รวมในประเทศในปีนี้ โดยคาดว่าจะสูงถึง 750,000 คัน ประกอบกับแนวโน้วภาวะเศรษฐกิจในหลายๆประเทศที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน จากความต้องการรถจากลูกค้าในทวีปหลัก ๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง