นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือด้านแผนงานส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้อาเซียน ครั้งที่ 17 (The 17 Joint Committee on ASEAN Cooperation in Agriculture and Forest Products Promotion Schem : JC) ที่ผ่านมา มีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน 7 ประเทศ และสำนักเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมประชุม
โดยภายใต้บันทึกความเข้าใจแผนงานส่งเสริมการเกษตรและป่าไม้อาเซียนมีสินค้า 11 ชนิด ที่อาเซียนตกลงที่จะร่วมมือกันได้แก่ ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง สาหร่ายทะเล โกโก้ มะพร้าว ชา กาแฟ ถั่วต่างๆ พริกไทย ปลาทูน่า และผลิตภัณฑ์ป่าไม้ โดยมีเจ้าภาพหลักดูแลรับผิดชอบในแต่ละสินค้า ซึ่งมีการจัดตั้งคณะทำงาน (National Focal Point Working Group : NFPWG) ในแต่ละสินค้า ทั้งนี้ แต่ละประเทศจะต้องรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานในสินค้าที่ตนเป็นเจ้าภาพหลักต่อที่ประชุมคณะกรรมการฯ ดังกล่าว
สำหรับประเทศไทยในฐานะที่เป็นเจ้าภาพหลักในสินค้ามันสำปะหลังได้รายงานผลการประชุม NFPWG on Topioca ครั้งที่ 1 โดยมีการกำหนดกรอบการดำเนินงานในกิจกรรมที่สามารถดำเนินการได้ในระสั้นก่อน เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตและการค้า การส่งเสริมให้มีความร่วมมือด้านงานวิจัยและการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายระหว่างภาคเอกชนของอาเซียนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการจัดตั้งสมาคมมันสำปะหลัง
ในขณะเดียวกันประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าได้จัดทำเอกสารข้อเสนอขอเปลี่ยนแปลงจากการเป็นเจ้าภาพหลักสินค้าพริกไทยเป็นสินค้าเครื่องเทศและสมุนไพร เพื่อดึงดูดความสนใจให้สมาชิกอาเซียนเข้าร่วมประชุมเพื่อจัดทำความร่วมมือกันมากขึ้น ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้แจ้งเวียนเอกสารเพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพิจารณาพืชอื่นที่ควรรวมไว้ในกลุ่มเครื่องเทศและสมุนไพร หลังจากนั้นจะต้องนำเสนอในที่ประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ (AMAF) ให้ความเห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบว่าภายใต้ Roadmap ประชาคมอาเซียน ปี 2552 — 2558 ในข้อบทของความตกลงการค้าสินค้าในกรอบอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement : ATICA) ได้กำหนดให้จัดตั้งคณะกรรมการด้าน SPS โดยประเทศไทยมีสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้