นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเสวนาในหัวข้อ "ชีวิตใหม่ ปลอดหนี้นอกระบบ" ว่า โครงการก้าวที่ยั่งยืนสู่ชีวิตใหม่ ปลอดหนี้นอกระบบนี้ เพื่อต้องการสร้างแรงจูงใจให้กับคนที่มีหนี้นอกระบบให้มีรายได้และสามารถชำระหนี้นอกระบบให้หมดไปได้ และยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ได้เป็นการเล่นแร่แปรธาตุ แต่ต้องการสร้างรายได้อย่างเป็นระบบที่ยั่งยืน
พร้อมกันนี้ ตั้งใจที่จะเปิดโครงการรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบรอบ 2 ในช่วงสิ้นปีนี้ หลังจากตอนนี้ยังมีอยู่ประมาณ 2 แสนคนที่ยังไม่ได้เข้าระบบ ซึ่งจะเร่งดำเนินการในกลุ่มของหนี้สินของเกษตรกร หนี้สินของครู หนี้สินบัตรเครดิต รวมถึงจะมีการขยายผลสในส่วนของไมโครไฟแนนซ์ โดยมอบให้ทางกระทรวงการคลังไปศึกษาและทำงานร่วมกับธนาคารของภาครัฐ ซึ่งเชื่อว่าธนาคารมีความเข้าใจและสามารถแก้ไขปัญหาได้
"สิ่งที่เรากำลังทำ คือ เราต้องการสร้างแรงจูงใจให้คนที่มีหนี้สามารถทำงานมีรายได้และสามารถชำระเงินคืนได้...เราไม่ได้แก้ปัญหาแบบเล่นแร่แปรธาตุ แต่ต้องการให้มีรายได้และสร้างความยั่งยืน ล่าสุดมีผู้ที่มาลงทะเบียนและเข้าสู่โครงการดังกล่าวแล้วราว 4 แสนคน สำหรับหนี้ในส่วนอื่นไม่ว่าจะเป็นหนี้เกษตรกร, หนี้ครู และหนี้บัตรเครดิตนั้น รัฐบาลจะวางแนวทางในการทำให้เป็นระบบต่อไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ดี วันนี้ได้มีการเปิดตัวโครงการ "บัตรลดหนี้ วินัยดีมีวงเงิน" ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า บัตรดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยให้คนที่มีวินัยในการชำระหนี้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ แต่ต้องเป็นลูกหนี้ที่ได้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยรัฐบาลได้เตรียมเงินไว้ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับลูกหนี้ที่จะเข้าสู่ระบบทั้งหมด โดยได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงการคลัง และธนาคารรัฐทั้ง 6 แห่งด้วย