เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลียเผย การตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 4.5% เป็นเดือนที่ 3 ในการประชุมเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีความเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศซึ่งยังไม่อยู่ในระดับที่จะกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่หลายฝ่ายยังไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
รายงานหลังการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลียที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า ตลาดเริ่มผ่านพ้นสถานการณ์เลวร้ายบางอย่างไปได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มมากเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่านายเกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียจะยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยจนถึงปีหน้า หลังจากที่รุกขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง 6 ครั้งในระหว่างเดือนต.ค.2552 - พ.ค.2553 จากระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปีที่ 3% มาอยู่ที่ระดับ 4.5% ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ธนาคารกลางกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีสัญญาณบ่งชี้ให้ต้องเพิ่มระดับความระมัดระวังในภาคครัวเรือน ซึ่งภาวะดังกล่าวอาจช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออันเป็นผลภาคอุตสาหกรรมเหมืองของออสเตรเลียที่กำลังเฟื่องฟูจากอานิสงส์ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศจีน
ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของออสเตรเลียที่เพิ่งดีดตัวขึ้นเมื่อปีก่อน ประกอบกับภาวะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์แพงขึ้นล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้ธนาคารกลางเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมามีรายงานที่ระบุว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคและการขยายตัวของราคาสินค้าเริ่มชะลอตัวลง เช่นเดียวกับความต้องการขอสินเชื่อที่ลดน้อยลง