FED เผยหนี้ภาคครัวเรือนของสหรัฐลดลง 5.5% ในไตรมาสสอง ทำสถิติลดลงติดต่อกัน 7 ไตรมาส

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 18, 2010 08:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า หนี้สินภาคครัวเรือนของสหรัฐในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ระดับ 11.7 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 5.5% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2551 และลดลง 1.5% จากไตรมาสแรกปีนี้ โดยหนี้สินภาคครัวเรือนปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 7 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคครัวเรือนของสหรัฐสามารถรับมือกับปัญหาหนี้สินและปรับดุลบัญชีในครัวเรือนให้เหมาะสมได้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทางการสหรัฐรายงานว่า ภาคครัวเรือนมีอัตราการออมเพิ่มขึ้น 6.4% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทรงตัวในเดือนมิ.ย.

ข้อมูลของสถาบันการเงินสหรัฐที่ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินบ่งชี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตปรับตัวลดลงในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคของสหรัฐสามารถจัดการเรื่องการชำระหนี้บัตรเครดิตได้ดีขึ้น นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ชาวอเมริกันที่ชำระหนี้บัตรเครดิตตรงเวลามีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ