รัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรมูลค่ารวม 5.5 พันล้านยูโร (7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการเปิดประมูลพันธบัตรด้วยวงเงินสูงสุด
โดยรัฐบาลสเปนได้ประมูลขายพันธบัตรอายุ 12 เดือน มูลค่า 4.34 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 1.86% เมื่อเทียบกับวันที่ 20 ก.ค.ที่ให้อัตราผลตอบแทน 2.221% ส่วนยอดสั่งจองพันธบัตรมีจำนวนสูงกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายถึง 2.47 เท่า เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.95 เท่าของการประมูลในเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลสเปนยังได้ประมูลขายพันธบัตรอายุ 18 เดือน มูลค่า 1.17 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.078% เมื่อเทียบเดือนก.ค.ที่ให้อัตราผลตอบแทน 2.331% และมียอดสั่งจองพันธบัตรสูงกว่าจำนวนพันธบัตรที่นำออกจำหน่าย 3.86 เท่า เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค.ที่ระดับ 2.44 เท่า
ขณะเดียวกัน รัฐบาลไอร์แลนด์ได้นำพันธบัตรออกจำหน่ายมูลค่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพันธบัตรชุดนี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2557 และ 2563
ข่าวการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลสเปนและไอร์แลนด์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป