สำนักงานศุลกากรจีนวิเคราะห์ว่า ดัชนีการกำหนดราคาสินแร่เหล็กรายไตรมาส และการสว็อปสัญญาล่วงหน้า จะดึงสถาบันการเงินและกลุ่มนักเก็งกำไรเข้ามาในตลาดสินแร่เหล็กมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ราคาของวัตถุดิบที่สำคัญๆสำหรับการผลิตเหล็กมีความผันผวนได้ พร้อมกับเตือนบริษัทผู้ผลิตเหล็กของจีนเรื่องความเสี่ยงของการลดอุปทานของเหมืองสินแร่เหล็กชั้นนำของโลก 3 แห่ง ขณะที่จีนเองต้องพึ่งพาการนำเข้าสินแร่เหล็กเป็นจำนวนมาก
สำนักงานศุลกากรยังได้คาดการณ์ราคาสินแร่เหล็กว่า จะสูงขึ้นอีกในไตรมาส 3 ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์จะลดลง ซึ่งจะทำให้โรงงานผลิตเหล็กของจีนอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเป็นอย่างยิ่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดการนำเข้าสินแร่เหล็กของจีนอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากการนำเข้าที่สูงเกินไปทำให้สต็อกสินแร่เหล็กมีอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ดีมานด์ในกลุ่มอุตสาหกรรมดาวสตรีมอย่างภาคอสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ และเครื่องใช้ในครัวเรือนอ่อนตัวลง เพราะต่างก็ควบคุมการผลิตเหล็กของตนเอง
สำนักงานศุลกากรจีนยังได้ชี้ถึงประเด็นการนำเข้าสินแร่เหล็กจากประเทศใหม่ๆ เช่น ประเทศในกลุ่มอาเซียนและอิหร่านที่ขยายตัวขึ้นมาก แม้ว่าออสเตรเลีย อินเดีย และบราซิลจะยังคงเป็นประเทศส่งออกสินแร่เหล็กรายที่สำคัญของจีนก็ตาม
ในช่วง 6 เดือนแรกนั้น จีนนำเข้าสินแร่เหล็กจากอาเซียน 8.41 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 100% และอิหร่าน 6.749 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 180% ต่อปี
ทั้งนี้ จีนได้นำเข้าสินแร่เหล็กจากออสเตรเลีย 130 ล้านตันในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 41.4% ของยอดการนำเข้าทั้งหมดของจีนในช่วงดังกล่าว ส่วนการนำเข้าจากอินเดียเพิ่มขึ้น 4% แตะ 64.9 ล้านตัน ขณะที่การนำเข้าจากบราซิลร่วงลง 1.9% แตะ 59.64 ล้านตัน