พ.ท.ทวีสิน รักกตัญญู ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกทพ.ในเดือนส.ค.นี้ กทพ.จะเสนอให้ที่ประชุมอนุมัติให้ผู้ใช้ทางเป็นผู้รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)จากเดิมที่ กทพ.เป็นผู้รับภาระแทนผู้ใช้ทางในปัจจุบัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกับระบบสาธารณูปโภคอื่น เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าประปา และค่าโทรศัพท์
ก่อนหน้านี้ กทพ.เคยเสนอให้ผู้ใช้ทางเป็นผู้รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ในช่วงนั้นรัฐบาลเห็นว่า กทพ.ควรปรับปรุงระบบจัดเก็บค่าผ่านทางให้ดีขึ้นก่อน ซึ่งในปัจจุบัน กทพ.ได้นำระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติหรือ EASY PASS มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทางแล้ว ดังนั้น ขณะนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเสนอให้ผู้ใช้ทางรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยในแต่ละปี กทพ.ต้องรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มแทนผู้ใช้ทางคิดเป็นเงินปีละประมาณ 700 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปีงบประมาณ 53 พบว่า กทพ.มีรายได้ 6,616 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,210 ล้านบาท มีรายจ่าย 4,318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 789 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 420 ล้านบาท สาเหตุที่รายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เป็นผลจากปริมาณจราจรในระบบทางด่วนเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1.3 ล้านเที่ยว
นอกจากนี้ กทพ.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นหรือเอ็มโอยูกับธนาคารกรุงไทย เพื่อขอเปิดวงเงินกู้จำนวน 1 พันล้านบาทนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินพนักงาน กทพ.ประมาณ 4 พันคน ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าพนักงาน กทพ.ส่วนใหญ่มีภาระหนี้สิน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ และหนี้จากการซื้อที่พักอาศัย