ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบเยน จากกระแสคาดรัฐบาลญี่ปุ่นไม่แทรกแซงเงินเยน

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 19, 2010 07:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาได้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.420 เยน จากระดับของวันอังคาร (17 ส.ค.) ที่ 85.530 เยน และอ่อนลง 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0419 ฟรังค์ จากระดับ 1.0427 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2858 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2879 ดอลลาร์ และเงินปอนด์ดีดขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.5598 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5587 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.78% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8978 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9049 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7138 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7120 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ทางการญี่ปุ่นจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในแวดวงตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นคาดว่า นายนาโอโตะ คัง รมว.คลังญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว

ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากยูโรไม่สามารถไต่ขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาได้ โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรอายุ 12 เดือน มูลค่า 4.34 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 1.86% และยอดสั่งจองพันธบัตรมีจำนวนสูงกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายถึง 2.47 เท่า รวมทั้งข่าวที่ว่า รัฐบาลไอร์แลนด์ได้นำพันธบัตรออกจำหน่ายมูลค่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพันธบัตรชุดนี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2557 และ 2563

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 2.551 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเข้าซื้อครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552 และมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เม็ดเงินไหลออกจากระบบการเงินของสหรัฐ โดยเฟดดำเนินการอย่างสอดคล้องกับที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าจะนำรายได้จากตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ไปซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญ จากเดิมที่คณะกรรมการเฟดวางแผนที่จะใช้ยุทธศาสตร์ถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป

นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า เฟดพยายามรักษาระดับเงินทุนในพอร์ทฟอลิโอของเฟด หรือ System Open Market Account (SOMA) ให้อยู่ที่ระดับ 2.054 ล้านล้านดอลลาร์ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และคาดว่าเฟดอาจจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอีก 2.84 แสนล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรือมากกว่าที่จีนและญี่ปุ่นเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐรวมกันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ เดือนพ.ค.ปีนี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ