นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์ในเดือนก.ค. 53 เพิ่มขึ้น 139.65% จากก.ค. 52 และสูงกว่าเดือนมิ.ย. 53 คิดเป็น 26.45% โดยคิดเป็นยอดส่งออก 87,605 คัน
ทั้งนี้เป็นผลจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดเอเซีย อีกประการหนึ่งการแก้ไขกฎระเบียบและขั้นตอนต่างๆ ของกรมศุลกากรที่เอื้ออำนวยให้การส่งออกรถยนต์ได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้สิทธิยกเว้นและลดอัตราอากรขาเข้าจากประเทศในอาเซียนภายใต้ความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA: ASEAN Trade In Goods Agreement) ที่ใช้แทน CEPT (Common Effective Preferential Tariff) ได้ เป็นการช่วยทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้มากยิ่งขึ้น โดยมีมูลค่าการส่งออก 39,835.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 129.41%
ขณะที่การส่งออกรถยนต์ในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.53) สามารถส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 505,783 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 115.57% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 234,968.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 86.95%
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในเดือนก.ค. 53 จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ มีทั้งสิ้น 145,771 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน94.41% แต่ลดลง 2.09% จากเดือนมิ.ย. 53
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 7 เดือน (ม.ค. - ก.ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 914,765 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 97.12%
ด้านยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนก.ค. 53 มีจำนวนทั้งสิ้น 65,672 คัน ลดลง 6.92% จากเดือนมิ.ย.53 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 52.2% เป็นผลจากเศรษฐกิจของประเทศที่มีทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ยังคงส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงขึ้น ตลอดจนการเติบโตของตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้ดีส่งผลให้รถกระบะมียอดขายที่ดีขึ้น
ขณะที่ในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) รถยนต์มียอดขาย 422,364 คัน เพิ่มขึ้น 53.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงยอดประมาณการการผลิตรถยนต์ในเดือนส.ค. - ต.ค. 53 ว่า มีจำนวน 416,050 คัน เปรียบเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนพ.ค. - ก.ค. 53 ซึ่งมีจำนวน 426,814 คัน ลดลง 10,764 คัน หรือ 2.52% และเมื่อเปรียบเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนส..ค. - ต.ค. 52 ซึ่งมีจำนวน 302,603 คันแล้ว เพิ่มขึ้น 113,447 คัน หรือ 37.49%