รัฐบาลจีนกำลังเร่งร่างแผนประหยัดพลังงานในส่วนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาแห่งชาติฉบับที่ 12 สำหรับในอีก 5 ปีข้างหน้าจาก พ.ศ. 2554 - 2558 ซึ่งมีกำหนดประกาศใช้ภายในปีนี้ เนื่องจากความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมโมบายอินเทอร์เน็ตของจีน กำลังมีปัญหาการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น
นายอู๋ เหอฉวน รองประธานสำนักบัณฑิตยสภาด้านวิศวกรรมศาสตร์ของจีนกล่าวว่า เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถช่วยให้อุตสาหกรรมอื่นๆประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษลงได้ แต่ปัญหาสภาพแวดล้อมที่เกิดจากอุตสาหกรรมไอทีก็ไม่ควรถูกมองข้าม โดยอุตสาหกรรมสารสนเทศในปัจจุบันมีอัตราการใช้พลังงานเป็นอันดับ 5 ของโลก และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 2.5% ของปริมาณการก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่ปล่อนสู่อากาสทั้งหมด หรือเท่ากับปริมาณการปลดปล่อยของอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศทั่วโลก
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสารสนเทศของจีน กำลังเผชิญกับปัญหาการบริโภคพลังงาน โดยบริษัทเทเลคอมรายใหญ่ทั้ง 3 บริษัท ของจีน ได้แก่ ไชน่าโมบาย ไชน่ายูนิคอม และ ไชน่าเทเลคอม มีอัตราการใช้ไฟฟ้าสูงถึง 1.41 หมื่นล้านกิโลวัตต์ ในปี 2551 และมีค่าไฟฟ้าของปีรวมกันกว่า 1.21 หมื่นล้านหยวน ซึ่งอุตสาหกรรมโมบายอินเทอร์เน็ตก็กำลังมีอัตราการบริโภคพลังงานทั้งเครือข่ายเพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ได้กระตุ้นให้ผู้ให้บริการเทเลคอมพัฒนาระบบการบริหารพลังงานรวมทั้งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการประหยัดพลังงาน
MIIT จึงตัดสินใจกำหนดมาตรฐานการประหยัดพลังงานสำหรับอุตสาหกรรมเทเลคอม และเรียกร้องให้แต่ละอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและประหยัดพลังงานมากขึ้นรวมทั้งปล่อยมลพิษน้อยลง
ปัจจุบัน MIIT กำลังร่างแผนประหยัดพลังงานฉบับที่ 12 ในส่วนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในอีก 5 ปีข้างหน้า และกำลังแก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน ในความพยายามสร้างแนวทางในการดำเนินงานเพื่อให้การประหยัดพลังงานของอุตสาหกรรมสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักข่าวซินหัวรายงาน