นางพรทิวา นาศัย รมว.พาณิชย์ เผยการส่งออกในเดือน ก.ค.53 มีมูลค่า 15,565 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20.6% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 16,504 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 36.1% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 940 ล้านดอลลาร์
"ยอดนำเข้าเดือนกรกฎาคมทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 23 เดือน" นางพรทิวา กล่าว
ทั้งนี้ส่งผลให้ช่วง 7 เดือนของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.53) การส่งออกมีมูลค่ารวม 108,631 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 34.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามูลค่า 103,193 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 49.0% เกินดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 5,438 ล้านดอลลาร์
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ยอดนำเข้าเดือน ก.ค.53 สูงสุดในรอบ 23 เดือน เป็นผลมาจากการนำเข้าทองคำที่มีมูลค่าสูงถึง 1,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนก่อน เนื่องจากทองคำในสต๊อกลดลง ประกอบกับราคาทองคำปรับตัวลดลงราว 3%
"การนำเข้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากยังไม่น่ากังวล เพราะเป็นการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก แสดงว่าผู้ประกอบการมีความมั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคต" นางพรทิวา กล่าว
สำหรับการส่งออกในเดือน ก.ค.53 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า ได้แก่ สินค้าเกษตร-อุตสาหกรรมการเกษตรเพิ่มขึ้น 12.7% โดยสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรมการเกษตรที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า ได้แก่ อาหารทะเลแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป, ไก่แช่แข็งและแปรรูป ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 23.5% Fดยสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเพิ่มเกิน 20% ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 36.5%, ยานยนต์เพิ่มขึ้น 62.8%, เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้น 26.1%, ผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้น 29.9%
โดยตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น ในส่วนของตลาดหลักขยายตัวเพิ่มขึ้น 22.3% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 แล้ว โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 30.6%
ส่วนผลกระทบที่เกิดจากปัญหาเงินบาทปรับตัวแข็งค่านั้น รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ผู้ส่งออกมีความกังวลว่าเงินบาทจะปรับตัวแข็งค่าจนไปแตะที่ระดับ 30 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกในอนาคต ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเป็นกระบอกเสียงส่งต่อความกังวลดังกล่าวไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันหากผู้ส่งออกดำเนินการเรื่องการประกันความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าไว้แล้วก้อาจคลายความกังวลได้
รมว.พาณิชย์ มั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยคาดว่า การส่งออกในช่วง 5 เดือนที่เหลือ(ส.ค.-ธ.ค.53) จะมีมูลค่าเฉลี่ยประมาณเดือนละ 14,000-15,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้อยู่บนสมมุติฐานค่าเงินบาทที่ระดับ 32-33 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ขอดูสถานการณ์ต่ออีกสักระยะแล้วอาจมีการประเมินอีกครั้งหลังสิ้นไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับประมาณการส่งออกปีนี้ขยายตัวเพิ่มเป็น 23.9%
ด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับการส่งออกในปี 54 น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 10% หลังศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ประเมินว่าจะขยายตัวที่ระดับ 8-13% เนื่องจากมีสัญญาณการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการขยายตัวเพิ่มขึ้นของตลาดส่งออก