นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการดำเนินการจัดหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาคจำนวน 20 จังหวัดตามมติคณะรัฐมนตรีว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)ได้ดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้วจำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม ปราจีนบุรี สุรินทร์ และหนองคาย เนื้อที่ประมาณ 1,284 ไร่ เกษตรกรจำนวน 88 ราย และ
และอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินจำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอำนาจเจริญ เนื้อที่ประมาณ 720 ไร่ เกษตรกรจำนวน 55 ราย รวมถึงรับคำเสนอขายที่ดินทั้งหมด 22,785ไร่ อีกทั้งเกษตรกรมาตรวจสอบสิทธิแล้วจำนวน 1,480 ราย และได้คัดเลือกแปลงที่ดินและมีความพึงพอใจในที่ดินแล้วจำนวน 737 ราย เนื้อที่ 1,153 ไร่
ทั้งนี้ ส.ป.ก.ได้โอนเงินกองทุนการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นค่าจัดซื้อที่ดินไปแล้ว 7 จังหวัด เนื้อที่ 2,037 ไร่ จำนวนเงิน 93,315,355 บาท อีกทั้งให้สำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัด (ส.ป.ก.จังหวัด) รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค ให้คณะกรรมการฯรับทราบอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ในส่วนที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาคตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา ได้มอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยการจัดซื้อที่ดินให้แก่เกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาคจำนวน 1,889 รายๆละ 15 ไร่ รวม 28,335 ไร่ ราคาไม่เกินไร่ละ 60,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,700,100,000 บาท เพื่อนำมาจัดให้เกษตรกรเช่าซื้อ กำหนดระยะเวลา 25 ปี โดยปลอดดอกเบี้ยในระยะเวลา 5 ปีแรกเริ่มชำระหนี้ในปีที่ 6 — 25 ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ของราคาที่ดินที่จัดซื้อนั้น ซึ่งงบประมาณรายจ่ายที่จะต้องใช้ในการดำเนินการจัดซื้อที่ดิน กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ รวมทั้งรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วยเช่นกัน