นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลจะยังไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงนี้ ซึ่งรัฐบาลมองว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะมีการนำมาใช้ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมเสมอไป
นายกฯรัฐมนตรีซึ่งทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงคลังด้วยนั้น กล่าวว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่จะทำให้ยอดขาดดุลของรัฐบาลสูงขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรจะมีการนำมาตรการกระตุ้นมาใช้บ่อยครั้ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ฉบับ มูลค่า 6.7 หมื่นล้านริงกิต หรือ 2.12 หมื่นล้านดอลลาร์ไปเมื่อปลายปี 2551 และต้นปี 2552 เพื่อรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก
นายนาจิบกล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียควรจะพุ่งเป้าไปที่การสร้างความแข็งแกร่งให้กับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ และการเดินหน้าโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์หลากหลาย โดยนายนาจิบมองว่าหากปัจจัยพื้นฐานมีความแข็งแกร่งแล้ว มาเลเซียก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีที่ 6% แม้ว่าดีมานด์ในต่างประเทศจะยังคงซบเซาก็ตาม
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารกลางมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียบรรลุเป้าหมายในการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 2 ปีนี้ ที่ระดับ 8.9% ซึ่งช่วยให้อัตราการขยายตัวของจีดีพีในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 9.5%