ค่าเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ 15 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของญี่ปุ่น หลังจากญี่ปุ่นเผยจีดีพีไตรมาส 2 ปีนี้ ขยายตัว 0.4% ต่อปี แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.3% ต่อปี
ทั้งนี้ ณ เวลา 08.29 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ เงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับ 108.54 เทียบกับยูโร จากระดับที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) ที่ 108.83 เทียบกับยูโร และพุ่งขึ้นแตระดับ 85.53 เทียบกับดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ตลาดนิวยอร์กที่ 85.62 เทียบกับดอลลาร์
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นก่อนที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) จะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ค.ในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะร่วงลง 12.9% มาอยู่ที่ระดับ 4.68 ล้านยูนิตต่อปี
ข้อมูลของสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในไตรมาส 2 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของตัวเลขจีดีพี ทรงตัวจากไตรมาสแรก ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนขยับขึ้นเพียง 0.5% และตัวเลขการลงทุนภาคสาธารณะหดตัวลง 3.4%
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงเมื่อเทียบกับ 16 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของออสเตรเลีย เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ โดยรายงานล่าสุดระบุว่าจูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรีหญิงของออสเตรเลีย เริ่มเปิดฉากการเจรจาเบื้องต้นกับพรรคกรีนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไร้สังกัดพรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังผลการเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ไม่สามารถตัดสินหาผู้ชนะเพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.7% มาอยู่ที่ระดับ 88.78 เซนต์สหรัฐ