ธนาคารในอินโดนีเซียเตรียมเพิ่มเงินสดสำรองเพื่อรองรับการทำธุรกรรมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลวันตรุษอีดุลฟิตริ (Idul Fitri) ซึ่งตรงกับวันที่ 9 และ 10 กันยายนนี้
ในช่วงวันหยุดเทศกาล ลูกค้ามักต้องการเงินสดมากขึ้น ส่งผลให้ธนาคารต่างๆ ต้องสำรองเงินสดมากขึ้นและตรวจสอบเงินในตู้เอทีเอ็ม ขณะเดียวกันชาวมุสลิมก็มักบริจาคทานมากกว่าปกติในช่วงวันตรุษอีดุลฟิตริ ซึ่งนับเป็นการฉลองสิ้นสุดเดือนรอมฎอน
ปาฮาลา มันสุรี ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และการเงินของแบงก์ มันดิรี (Bank Mandiri) ธนาคารของรัฐรายใหญ่ที่สุดในประเทศ กล่าวว่า ธนาคาร 120 สาขาจะเปิดให้บริการตามปกติในช่วงเทศกาลวันหยุดดังกล่าว โดยบางสาขาจะให้บริการธุรกรรมเฉพาะอย่าง อาทิ การชำระค่าเชื้อเพลิงและการชำระเงินให้บริษัทน้ำมันเปอร์ตามินา (Pertamina) ของรัฐ
นอกจากนั้นทางธนาคารยังยินดีให้บริการลูกค้าที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับธนาคาร โดยคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตและ sms ก็ยังให้บริการตามปกติ
นายปาลาฮากล่าวว่า ทางธนาคารเตรียมเงินสดไว้ 14 ล้านล้านรูเปียะห์ (ราว 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับให้ลูกค้าถอนเงินจากธนาคารสาขาและตู้เอทีเอ็มในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะเดียวกัน มูฮัมหมัด อาร์ดิอันส์ยาห์ โฆษกของแบงก์ รัคยัต อินโดนีเซีย (Bank Rakyat Indonesia: BRI) ธนาคารรัฐรายใหญ่อันดับ 2 กล่าวว่า ทางธนาคารจะให้บริการคอลเซ็นเตอร์และบริการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตตามปกติในช่วงวันหยุดเทศกาลดังกล่าว และถ้ามีปัญหาลูกค้าสามารถติดต่อธนาคารสาขาที่ใกล้ที่สุดได้ทันที
นายอาร์ดิอันส์ยาห์กล่าวว่า สำหรับวันหยุดเทศกาลอีดุลฟิตริในปีนี้ ทางธนาคาร BRI เตรียมเงินสดไว้ 13.8 ล้านล้านรูเปียะห์ (ราว 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยในจำนวนนี้รวมถึงเงินสด 8 ล้านล้านรูเปียะห์ (ราว 891.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับตู้เอทีเอ็ม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20%
ส่วนทางด้านแบงก์ เซ็นทรัล เอเชีย (Bank Central Asia: BCA) ธนาคารเอกชนรายใหญ่สุดของประเทศ ก็เตรียมเพิ่มเงินสดสำรองเช่นกัน โดย จาห์จา เซเตียอัตมัดจา รองประธานกรรมการธนาคาร กล่าวว่า ทางธนาคารได้เตรียมเงินสดไว้ 10 ล้านล้านรูเปียะห์ (ราว 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเทศกาลอีดุลฟิตริปีนี้ มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งเตรียมไว้เพียง 8 ล้านล้านรูเปียะห์ (891.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำนักข่าวซินหัวรายงาน