นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเจรจาประนอมหนี้ จำนวน 40,488 ราย ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่มีมูลหนี้ตั้งแต่ 50,001 — 200,000 บาท มูลหนี้รวม 4,728.95 ล้านบาท โดยจัดตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบระดับสำนักงานเขต มีผู้อำนวยการเขตเป็นผู้อำนวยการศูนย์ และหัวหน้าฝ่ายปกครอง เป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมขยายเวลาการเจรจาประนอมหนี้ถึง 4 ครั้ง จนถึง 25 มิ.ย.53 มีผลการดำเนินงาน ดังนี้
ลูกหนี้ของกทม. จำนวน 40,488 ราย มาเจรจาประนอมหนี้ จำนวน 19,244 ราย คิดเป็นร้อยละ 47.53 เป็นรายชื่อซ้ำซ้อน จำนวน 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.01 และไม่มาเจรจา จำนวน 21,242 ราย คิดเป็นร้อยละ 52.46 ซึ่งกรุงเทพมหานครจะติดตามลูกหนี้มาสู่กระบวนการเจรจาประนอมหนี้ต่อไป
สำหรับผลการเจรจาแบ่งออกเป็น กลุ่มที่เจรจาสำเร็จ จำนวน 16,042 ราย คิดเป็นร้อยละ 83.36 โดยประสงค์โอนเป็นลูกหนี้ธนาคาร จำนวน 15,794 ราย ซึ่งธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแล้ว จำนวน 2,433 ราย วงเงินกู้ 256.36 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณา จำนวน 12,333 ราย ไม่ผ่านการอนุมัติ จำนวน 1,029 ราย และไม่ประสงค์โอนเป็นลูกหนี้ธนาคาร 248 ราย
ในส่วนของกลุ่มที่เจรจาไม่สำเร็จ จำนวน 1,299 ราย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 6.75 มีสาเหตุจากเจ้าหนี้ไม่มา 1,048 ราย เจ้าหนี้ให้บุคคลอื่นมาแทน 49 ราย เจ้าหน้ากับลูกหนี้ตกลงกันไม่ได้ 18 ราย เจ้าหนี้ประสงค์ทรัพย์สินหลักประกัน 5 ราย และสาเหตุอื่นๆ 182 ราย ซึ่งกรุงเทพมหานครจะทำหน้าที่ในการช่วยเจรจาประนอมหนี้ต่อไป และกลุ่มที่ยุติเรื่อง จำนวน 1,903 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.89 แบ่งเป็นลูกหนี้ชำระหนี้สินแล้ว 98 ราย ลูกหนี้เข้าใจผิดว่ารัฐบาลชำระหนี้ให้ 47 ราย ลูกหนี้เป็นหนี้ที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุจำเป็น 8 ราย ลูกหนี้เป็นญาติพี่น้องไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบธนาคาร 125 ราย ลูกหนี้เป็นผู้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ 32 ราย ลูกหนี้ไม่ให้ความร่วมมือในการเจรจา 9 ราย และจากสาเหตุอื่นๆ 1,584 ราย
ทั้งนี้ ในภาพรวมทั้งประเทศมีลูกหนี้นอกระบบกว่า 1.2 ล้านคน โดยเป็นลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการเจรจาประนอมหนี้แล้วประมาณ 4 แสนคน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น่าพอใจ พร้อมกันนี้กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมแผนการดำเนินงานต่อเนื่องสำหรับการฟื้นฟูแนวคิดในการดำเนินชีวิตสำหรับลูกหนี้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือไม่สามารถผ่อนชำระหนี้กับธนาคารได้ โดยสนับสนุนให้ลูกหนี้สามารถประกอบอาชีพที่เหมาะสม มีรายได้เพียงพอและมีเงินเหลือเก็บออม สามารถชำระหนี้ได้โดยไม่เดือดร้อน ผ่านโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ซึ่งในระยะยาวจะช่วยให้ลูกหนี้มีชีวิต ฐานะที่มั่นคง พร้อมประสานกระทรวงการคลังเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ และให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างวินัยทางการเงินผ่านศูนย์ส่งเสริมการบริหารเงินออมครอบครัวอีกด้วย