องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JETRO เผยยอดส่งออกสินค้าทั่วโลกในปี 2552 ร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ 23.0% จากปีก่อนหน้านี้ แตะที่ 12.30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายหลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ ประสบภาวะล้มละลายในเดือนก.ย.2551 ขณะที่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวลดลง
รายงานมูลค่าทางการค้าและการลงทุนรายปีของ JETRO ระบุว่า ยอดส่งออกทั่วโลกในปีที่ผ่านมาร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2492 ขณะที่ประเทศผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลกตกเป็นของจีน ซึ่งก้าวขึ้นแทนเยอรมนีได้เป็นครั้งแรกด้วยสัดส่วนการส่งออกสินค้าเกือบ 10% ของยอดส่งออกทั่วโลกในปี 2552
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ปรากฏว่า ยอดส่งออกสินค้าจาก 16 ประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ ตลอดจน ฮ่องกง และ ไต้หวันปรับตัวเพิ่มขึ้น 27.7% ซึ่งบ่งชี้ว่า ยอดการส่งออกทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นตลอดทั้งปีนี้
ส่วนมูลค่าทางการค้าของสินค้าประเภทสิ่งแวดล้อมจำนวน 48 รายการที่ธนาคารโลกได้จำแนกไว้นั้น มียอดรวมอยู่ที่ 1.825 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 5 ปี
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั่วโลกในปี 2552 ร่วงลง 42.6% มาอยู่ที่ 1.13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยญี่ปุ่นมียอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศดิ่งลง 51.8% แตะระดับ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกัน รายงานของ JETRO ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ถึงเวลาสำหรับการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรีอย่างเต็มรูปแบบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมทั้งเรียกร้องให้บริษัทญี่ปุ่นขยายตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในพื้นที่ชนบทของจีน รวมถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน