สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอ่อนแอและมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยหลักฐานล่าสุดคือยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี นอกจากนี้ ความกังวลในเรื่องดังกล่าวยังกระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาโลหะเงิน พลาตินัม และพัลลาเดียม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,233.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,211.70 - 1,237.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 38.60 เซนต์ ปิดที่ 18.378 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.05 เซนต์ ปิดที่ 3.2620 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,517.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนก.ย.ดีดขึ้น 55.00 เซนต์ ปิดที่ 484.25 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 27.2% จากเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 3.83 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 หรือในรอบ 15 ปี และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 12% เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และจากการที่นโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลหมดอายุลงตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ปีนี้
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำยังคงซบเซาและผันผวน เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐได้หนุนนักลงทุนให้เข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์เช่นเดียวกับโลหะมีค่าประเภทต่างๆ รวมถึงทองคำ