นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวปาฐกถาในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองอินเดียนาโปลิสในวันนี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงตกอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน เนื่องจากสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา
การแสดงความคิดเห็นของนายอีแวนส์มีขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 27.2% จากเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 3.83 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 หรือในรอบ 15 ปี และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 12% เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และจากการที่นโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลหมดอายุลงตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ปีนี้
นายอีแวนส์กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว และหากสถานการณ์เศรษฐกิจยังเป็นเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะใช้นโยบายผ่อนปรนด้านการเงินต่อไป
นอกจากนี้ นายอีแวนส์กล่าวว่า เฟดพยายามรักษาเม็ดเงินในพอร์ทฟอลิโอของเฟด หรือ System Open Market Account (SOMA) ให้อยู่ที่ระดับ 2.05 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยการนำรายได้จากตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ไปซื้อพันธบัตร ซึ่งการเข้าซื้อพันธบัตรในครั้งนี้นับเป็นความพยายามครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีของเฟด โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากอัตราว่างงานของสหรัฐเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 9.5% ในเดือนที่แล้ว
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำเดือนก.ค.ฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 0 จุด จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ -0.70 จุด โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าระดับเฉลี่ย