สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในแวดวงการเงินของญี่ปุ่นว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กำลังพิจารณาเรื่องการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะสกัดกันการแข็งค่าของเงินเยน และคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่บีโอเจจะขยายโครงการระดมทุนระยะ 3 เดือน โดยมีเป้าหมายที่จะเงินวงเงินกู้ให้กับสถานบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.1%
ทั้งนี้ บีโอเจกำลังถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐบาลให้เร่งใช้มาตรการฉุกเฉินเพิ่มเติม เนื่องจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
บีโอเจเคยประกาศใช้โครงการระดมทุนเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้วเพื่อสกัดกั้นเงินเยนที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหนี้สาธารณะในดูไบ
เกียวโดระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่บีโอเจจะพิจารณาเพิ่มวงเงินในการระดมทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์ จากปัจจุบันที่ระดับ 20 ล้านล้านเยน เป็น 30 ล้านล้านเยน และขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ออกไปเป็น 6 เดือน จากปัจจุบันที่กำหนดไว้ 3 เดือน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจถูกนำมาพิจารณาในการประชุมกำหนดนโยบายของบีโอเจในวันที่ 6-7 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม มีกระแสคาดการณ์แพร่สะพัดในตลาดการเงินว่า บีโอเจจะจัดการประชุมก่อนกำหนด
เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นถือเป็นปัจจัยลบต่ออุตสาหกรรมส่งออกญี่ปุ่นซึ่งเป็นอุตสากรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าจะส่งผลให้กำไรในตลาดต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นหดตัวลงด้วย นอกจากนี้ เงินเยนที่แข็งค่าจะทำให้ราคานำเข้าสินค้าตกต่ำลงและอาจทำให้ญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะเงินฝืด