นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในวันนี้ผู้ประกอบการทั้ง 76 โครงการมาบตาพุด จะหารือร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อดูว่ามีโครงการใดบ้างที่เข้าข่ายกิจการรุนแรงตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(สวล.)มีมติให้ออกประกาศ 11 ประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรง หลังจากนั้นเอกชนที่ไม่ได้อยู่ในข่ายก็จะต้องเตรียมนำข้อมูลไปยื่นต่อศาลปกครองกลางเพื่อประกอบการพิจารณาปลดล็อคโครงการ ภายในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ หากรัฐบาลสามารถประกาศ 11 กิจการรุนแรงออกมาเร็ว ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ แต่ยอมรับว่ายังเป็นห่วงการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)และการทำผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ที่ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการถึง 2 ปี อาจกระทบต่อความต้องการลงทุนในไทยของต่างชาติได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มเอ็นจีโอ จะฟ้องศาลปกครองกลางเพื่อระงับมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาตินั้น นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นความคิดเห็นของแต่ละบุคคคล แต่ส่วนตัวมองว่า 11 ประเภทกิจการรุนแรงที่บอร์ดสิ่งแวดล้อมมติออกมานั้น ถือว่ามีความเหมาะสมและได้มีการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีแล้ว และอยากให้การลงทุนของประเทศเดินหน้าต่อไปได้