คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ มีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี เป็น 1.75% ต่อปี โดยให้มีผลทันที พร้อมระบุว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้นแม้ปรับขึ้นครั้งนี้อีก 0.25%
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ขยายตัวได้ดีเกินคาด แม้ชะลอตัวลงบ้างจากในไตรมาสแรก จากผลกระทบของสถานการณ์ทางการเมือง แต่การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี ภาคท่องเที่ยวมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น การผลิตและอัตราการใช้กำลังการผลิตปรับสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ขณะที่การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เริ่มชะลอลงในครึ่งปีหลัง
แรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันยังมีไม่มาก แต่คาดว่าจะสูงขึ้นในปี 54 ตามการขยายตัวของเศรษบกิจและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต และมีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะสูงกว่ากรอบเป้าหมายได้
สำหรับเศรษฐกิจโลกครึ่งปีแรกยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แต่ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะขยายตัวในอัตราที่ลดลง ขณะที่ประเทศในสหภาพยุโรปฟื้นตัวดีขึ้น ยังคงมีความเปราะบางจากปัญหาหนี้สาธารณะในบางประเทศ ส่วนเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเอเชียขยายตัวได้ดี
นายไพบูลย์ กล่าวว่า แม้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้แล้ว แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ยังเป็นขาขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การขยายตัวเศรษฐกิจถือเป็นระดับที่น่าพอใจ แต่จะปรับขึ้นในระดับไหนยังไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมจะต้องดูทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเท่าที่ประเมินมาเศรษฐกิจไทยไม่ได้ผิดไปจากเป้าที่เราประกาศไว้ ดังนั้น ถ้าทุกอย่างนิ่งก็จะมีการปรับเป้าจีดีพีในวันที่ 28 ต.ค.นี้
ส่วนผลต่อค่าเงินบาทนั้น ธปท.เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่มีผลตอ่การไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ เพราะมีตัวแปรหลายตัวประกอบ โดยเฉพาะพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าดอกเบี้ยต่ำหรือสูง หากพื้นฐานเศรษฐกิจดี นักลงทุนก็จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณกันทั้งภาพรวมเศรษบกิจและอัตราเงินเฟ้อ
นายไพบูลย์ กล่าวว่า กนง.พอใจการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั้งด้านเงินฝากและกู้ ซึ่งเป็นผลจากการประชุม กนง.ครั้งก่อน มองว่าเป็นการปรับขึ้นค่อนข้างเร็ว หลังจากได้ส่งสัญญาณไป ส่วนหนึ่งเป็นผลจากบางธนาคารเป็นผู้นำในการปรับดอกเบี้ยทำให้ธนาคารอื่นปรับตามสอดคล้องกับที่ กนง.คาดการณ์ไว้