สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เปิดเผยว่า ความต้องการด้านการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ ยังคงขยายตัวต่อเนื่องในเดือนก.ค. เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นช่วยกระตุ้นดีมานด์ให้ดีดตัวขึ้นด้วย
IATA ระบุว่า ความต้องการโดยสารทางอากาศระหว่างประเทศในเดือนก.ค.ปีนี้ พุ่งขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ความต้องการด้านการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ดีดตัวขึ้น 22.7% โดยสายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขยายตัวแข็งแกร่งถึง 10.9% เพราะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ขยายตัว 10.6% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้
"สายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะได้กำไรสูงถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นกำไรสูงสุดในรูปสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับปี 2552" IATA กล่าวในแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม IATA ระบุว่า หากเทียบเป็นรายปีนั้น อัตราการเติบโตของดีมานด์การเดินทางทางอากาศในเดือนก.ค.ยังน้อยกว่าในเดือนมิ.ย.ที่มีอัตราการขยายตัวของดีมานด์การโดยสารและการขนส่งทางอากาศที่ระดับ 11.6% และ 26.6% ตามลำดับ
ส่วนในช่วงต้นปีจนถึงเดือนก.ค.ที่ผ่านมานั้น อัตราการขยายตัวของความต้องการเดินทางทางอากาศอยู่ที่ระดับ 8% ต่อปี ขณะที่อัตราการขยายตัวของความต้องการขนส่งทางอากาศอยู่ที่ระดับ 17% ต่อปี
โจวานนี บิซิญานี ซีอีโอของ IATA กล่าวว่า "การฟื้นตัวของดีมานด์การเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม หากประเมินตัวเลขดังกล่าวไปจนถึงปลายปีนี้ ก็คาดว่าอัตราการฟื้นตัวอาจชะลอลง เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงส่งผลบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคในอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งสภาวะเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจสันทนาการและการขนส่งทางอากาศ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน