นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนร่วมกับประเทศคู่เจรจา เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม อาเซียนและญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะเจรจาเปิดเสรีภาคการค้าบริการและการลงทุนภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าเจรจาให้แล้วเสร็จก่อนการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (เออีเอ็ม) ในเดือนส.ค.54
ส่วนการหารือในกรอบอาเซียน-จีน ได้หารือถึงการทบทวนความตกลงการค้าสินค้า โดยจะปรับปรุงระเบียบพิธีการภายใต้กฎแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อให้สามารถใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเอได้มากขึ้น ขณะที่การเปิดเสรีด้านการค้าบริการและการลงทุน อาเซียนและจีนใกล้ได้ข้อสรุปของการเจรจาข้อผูกพันการเปิดเสรีสาขาบริการแล้ว คาดว่าจะมีการลงนามได้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน เดือนต.ค.นี้ ส่วนความตกลงการลงทุน ได้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53
นอกจากนี้ ได้เปิดเว็บไซต์ธุรกิจอาเซียน-จีน ซึ่งจะเป็นแหล่งข้อมูลการทำธุรกิจในอาเซียนและจีน และจะช่วยให้ภาคธุรกิจ และเอสเอ็มอี เข้าถึงรายละเอียดและช่วยกระตุ้นให้มีการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเออาเซียน-จีนได้เพิ่มขึ้น
ขณะที่การหารืออาเซียน-เกาหลีใต้นั้น เป็นการหารือถึงกรณีที่ลาวต้องการเพิ่มรายการสินค้าอ่อนไหวในความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าอาเซียน-จีน ซึ่งไทยไม่ขัดข้อง และพร้อมที่จะลงนามแก้ไขความตกลงฯ เพราะไม่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ โดยลาวจะเก็บภาษีนำเข้าจากเกาหลีเพิ่มขึ้น ได้แก่ รถยนต์ขนส่งบุคคลและสิ่งของ มอเตอร์ไซต์และชิ้นส่วน วีดีโอเกม ของเล่น และตู้เกม เป็นต้น แต่กับไทยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า เพราะได้รับการลดหย่อนภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา)