นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น สั่งการให้นายมาซายูกิ นาโอชิมะ รมว.เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ใช้แผนสนับสนุนการลงทุนภายในประเทศเพื่อกระตุ้นการจ้างงานในอุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่ากำลังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มบริษัทส่งออก
"ผมได้สั่งการให้กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ใช้แผนสนับสนุนการลงทุนภายในประเทศเพื่อกระตุ้นการจ้างงานในอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อให้บริษัทต่างๆสามารถสร้างโอกาสในการลงทุนในประเทศ และช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตในประเทศขยายตัวเร็วขึ้น" นายคังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้
นายคังกล่าวว่า มาตรการสนับสนุนการลงทุนภายในประเทศเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่รัฐบาลจะหารือกันในวันอังคารหน้า
การเปิดเผยของนายคังมีขึ้นหลังจากผลสำรวจจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า ผู้ประกอบการภาคการผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นเกือบ 40% มีแผนย้ายฐานการผลิต หรือเปลี่ยนศูนย์กลางด้านการพัฒนาสินค้าไปยังต่างประเทศ หากเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 85 เยน
ขณะเดียวกันผลสำรวจยังระบุด้วยว่า การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์นั้นอาจส่งผลกระทบให้บริษัทราว 65% มีผลกำไรลดลง ขณะที่การแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินยูโรอาจส่งผลกระทบให้บริษัทราว 50% เผชิญปัญหาในลักษณะเดียวกัน
นายมาซายูกิ นาโอชิม่า รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจฯ กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินเยนจะสร้างปัจจัยลบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และอาจทำให้เกิดช่องโหว่ในภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนจะบดบังทิศทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ที่ขับเคลื่อนด้วยภาคการส่งออก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างผลสำรวจที่ระบุว่า 14% ของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมการผลิตคาดว่า การแข็งค่าของเงินเยนจะทำให้ผลกำไรของบริษัทร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ 51% ระบุว่าการแข็งค่าของเงินเยนจะส่งผลให้กำไรปรับตัวลดลงอยู่บ้าง และเมื่อสอบถามความเห็นในกรณีที่เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 85 เยนเป็นเดือนที่ 6 นั้น สัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่เชื่อว่าจะเผชิญกับวิกฤตผลกำไรที่ดิ่งลงอย่างรุนแรง ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30%