นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้รายงานให้ทราบถึงสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน และแนวโน้ม รวมถึงมาตรการกำกับดูแลของกรมการค้าภายใน โดยนายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ดูแลเรื่องราคาสินค้าเป็นพิเศษ เพราะเกรงว่า ข่าวการขึ้นเงินเดือนของข้าราชการอาจทำให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาขายได้ นอกจากนี้ ยังได้ฝากให้ดูแลราคาขายอาหารในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เพราะได้รับการร้องเรียนจากข้าวราชการจำนวนมากว่าขายแพงเกินไป
"ท่านนายกฯได้ฝาก 2 เรื่องให้กรมดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งในเรื่องราคาสินค้า กรมกำกับดูแลอย่างดีอยู่แล้วตั้งแต่หัวจดท้าย ไม่ให้มีการบิดเบือนกลไกตลาด ส่วนศูนย์อาหารก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าขายราคาเท่าไร อาจแก้ปัญหาสูตรเดียวกับฟูดคอร์ทในห้างสรรพสินค้าที่ให้ขายจานละ 25 บาท" นางวัชรีกล่าว
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคนั้น หากพ้นสิ้นเดือนก.ย.นี้ไปแล้ว ซึ่งเป็นขอความร่วมมือตรึงราคาขาย อาจมีผู้ผลิตสินค้าบางรายการขอปรับขึ้นราคาขาย เพราะต้นทุนสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศสูงขึ้น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด และเครื่องครัว จากการสูงขึ้นของราคานิกเกิล, สายไฟฟ้า จากการสูงขึ้นของราคาทองแดง, แบตเตอรี่ จากการสูงขึ้นของราคาตะกั่ว, เหล็กเส้น จากการสูงขึ้นของราคาเหล็ก เป็นต้น ซึ่งกรมต้องขอพิจารณาต้นทุน และขอหารือกับรมว.พาณิชย์ก่อน ส่วนเรื่องการขายน้ำดื่มตามราคาแนะนำนั้น จากการหารือกับบริษัท ขนส่ง จำกัด การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อแจ้งให้ผู้ประกอบการบริเวณสถานี ขายน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกใส (เพท) ตามราคาแนะนำนั้น ทั้ง 3 หน่วยงานจะให้ความร่วมมือ และจะมีจุดบริการน้ำดื่มฟรีให้ด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้า พืชผัก ไข่ไก่ และเนื้อสัตว์ มีแนวโน้มราคาลดลง ยกเว้นวัตถุดิบอาหารสัตว์บางประเภท เช่น ข้าวโพด โดยสินค้าของใช้ประจำวันมีราคาทรงตัวอยู่ระดับปัจจุบัน สินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบนำเข้าคาดว่าอาจปรับราคาสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
ในด้านมาตรการและแผนดูแลราคาสินค้าช่วงสิงหาคม-ธันวาคม 2553 มีการควบคุมราคาสูงสุด 1 สินค้า คือ น้ำตาลทราย ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล และควบคุมตามสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่ 38 จังหวัด และกำหนดราคาขายปลีกแนะนำ และติดป้ายราคาสินค้า 39 รายการ สำหรับสินค้าที่มีผลกระทบมวลชน ได้แก่ ไข่ไก่ นื้อสุกรชำแหละ น้ำดื่มบรรจุขวด และอาหารปรุงรสำเร็จ เป็นต้น