NGO พบนายกฯ ขู่เคลื่อนไหวใหญ่-ยื่นศาลปกครอง หากครม.ไฟเขียว 11 กิจการฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 31, 2010 11:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุทธิ อัชฌาสัย ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคตะวันออก เข้ายื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านมติการออกประกาศ 11 ประเภทกิจการรุนแรงตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(สวล.)เห็นชอบและมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีวันนี้ พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลมีการจัดทำประกาศใหม่ให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น

นายสุทธิ กล่าวว่า เครือข่ายในวันนี้จะรอฟังผลจากที่ประชุม ครม.วันนี้ หาก ครม.มีมติตามที่ สวล.เสนอจะมีการรวมตัวเครือข่ายประชาชนในทุกภาคออกมาแสดงปฏิกริยาตอบโต้กับมติครม.โดยจะนัดหมายกันภายในเดือน ก.ย.นี้เคลื่อนไหวทั่วประเทศ และอีกทางหนึ่งก็จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อให้มีการคุ้มครองชั่วคราวระงับมติ สวล.ที่ได้มีการพิจารณา 11 โครงการต่อไป

ทั้งนี้ ทางเครือข่ายอยากให้ทางรัฐบาลกลับไปยึดหลักของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่ได้มีการพิจารณาใน 18 กิจการเป็นตัวพื้นฐานเพราะคณะกรรมการ 4 ฝ่ายได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างครบถ้วนแล้ว

นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ จะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้มีการตรวจสอบคณะกรรมการ สวล.บางคนที่มีนัยว่าเอื้อผลประโยชน์ให้กับภาคเอกชนในการตัดสินใจเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากเห็นว่ามีคณะกรรมการ 3 คนที่เข้าข่ายในเรื่องนี้

ในหนังสือที่ยื่นให้กับนายกรัฐมนตรีวันนี้ ทางเครือข่ายฯ ระบุ 7 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ขอให้จัดทำประกาศโครงการที่มีผลกระทบรุนแรงใหม่ให้เป็นที่ยอมรับต่อประชาชน เนื่องจากการพิจารณาประเภทกิจการดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยอมรับและไม่มีเหตุผลทางวิชาการที่เป็นที่ยอมรับแก่ทุกภาคส่วน อีกทั้งไม่มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของสถาบันวิชาการ เอ็นจีโอ และประชาชนทั่วประเทศอย่างแท้จริง

2. เหตุผลประกอบในทางวิชาการในประกาศประเภทโครงการที่มีผลกระทบรุนแรง ยังไม่เป็นที่ยอมรับ และยึดหลักวิชาการที่แตกต่างกัน รวมทั้งยึดถือเหตุผลด้านเทคนิค วิศวกรรมมากกว่าเหตุผลทางด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย

3. กระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชน ยังขาดการให้ความรู้และสร้างความตระหนักให้กับประชาชนในประเด็นเรื่องการจัดทำการประกาศประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรง

4. เสนอให้มีการระบุว่าโครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เปราะบาง เช่น พื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่ในเขตควบคุมมลพิษ กรณีมาบตาพุดเป็นโครงการหรือกิจการที่ส่งผลกระทบรุนแรงไม่ว่าโครงการนั้นๆ จะไม่เข้าข่ายประเภทโครงการหรือกิจการที่ส่งผลกระทบรุนแรงก็ตาม โดยจะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 67 วรรค 2

5. เสนอให้มีการปรับเพิ่มรายชื่อโครงการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงในทุกๆ 2 ปี

6. เสนอให้มีการทำประกาศใหม่ โดยให้รัฐบาลมอบหมายให้หน่วยงานที่เหมาะสมในการทำประกาศประเภทโครงการดังกล่าวมาเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ได้แก่ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

7. องค์กรที่จะมีอำนาจในการประกาศประเภทโครงการรุนแรง มิได้มีการบัญญัติไว้ว่าเป็นอำนาจของหน่วยงานใด ดังนั้นจึงสมควรให้มีการตีความให้ชัดเจนก่อน ที่จะมีการประกาศประเภทโครงการที่ผลกระทบรุนแรง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ