สำนักข่าวเกียวโดรายงานคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรนด้านการเงินที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศใช้ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และแนวโน้มที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ถาม : ทำไมบีโอเจจึงตัดสินใจใช้นโยบายผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติม?
ตอบ: เพราะบีโอเจดำเนินการเพื่อตอบสนองตามที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนปรนด้านการเงินเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในการประชุมประจำปีของเฟดที่มีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการตัดสินใจของเฟดได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน การแข็งค่าของเงินเยนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพด้านการแข่งขันของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น และฉุดตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงอย่างหนัก และบีโอเจได้ตัดสินใจใช้นโยบายผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติมในครั้งนี้ในช่วงที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอีก
ถาม : อะไรคือสาระสำคัญของมาตรการผ่อนปรนด้านการเงินของบีโอเจ?
ตอบ : บีโอเจเริ่มใช้โครงการจัดหาเงินกู้ระยะเวลา 3 เดือน มูลค่า 20 ล้านล้านเยน ให้กับสถาบันการเงิน ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 0.1% ตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และล่าสุดบีโอเจได้อัดฉีดเงินเข้าสู่โครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านล้านเยน พร้อมกับขยายระยะเวลาการชำระคืนออกไปเป็น 6 เดือน จากเดิม 3 เดือน
ถาม : มาตรการของบีโอเจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง?
ตอบ : เนื่องจากมาตรการผ่อนปรนด้านการเงินของบีโอเจทำให้มีกระแสเงินทุนจำนวนมาก จึงทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลและอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ของภาคเอกชนมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้นและมีการใช้จ่ายด้านทุนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคก็จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายส่วนบุคคลให้เพิ่มขึ้นด้วย
ถาม : มาตรการล่าสุดของบีโอเจจะช่วยสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนได้หรือไม่?
ตอบ : การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็เพราะนักลงทุนทุ่มซื้อสกุลเงินเยนเพราะเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยมากกว่าถือครองสกุลเงินของยุโรปและสหรัฐที่เศรษฐกิจภายในประเทศกำลังอ่อนแอ ด้วยมุมมองเช่นนี้ ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่ามาตรการครั้งล่าสุดของบีโอเจจะไม่ช่วยให้วงจรดังกล่าวหมดไป และอาจเป็นเหตุให้เงินเยนด้อยมูลค่าลงอย่างฉับพลัน
ถาม : รัฐบาลญี่ปุ่นจะฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างไร?
ตอบ : รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการสร้างงานและกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นลำดับแรก ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงจะให้ความช่วยเหลือบริษัทที่รับบัณฑิตจบใหม่เข้าทำงาน และจะสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กให้รับคนอายุน้อยที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาเข้าทำงาน นอกจากนี้ รัฐบาลจะขยายโครงการ "eco-point" ออกไปจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า จากเดิมที่จะหมดอายุลงในเดือนธ.ค.ปีนี้ เพื่อสนับสนุนการซื้ออุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
ถาม : เสียงตอบรับของมาตรการบีโอเจและรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?
ตอบ : นักวิจารณ์บางคนกล่าวว่า ทั้งมาตรการของบีโอเจและของรัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ขณะที่นักลงทุนในตลาดการเงินบางกลุ่มแย้งว่า บีโอเจควรเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลเพิ่มขึ้น