สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยว่า ยอดหนี้สินต่างประเทศของออสเตรเลียมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 6.71 แสนล้นดอลลาร์ออสเตรเลีย (6.02 แสนล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ จากจำนวน 6.57 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (5.89 แสนล้านดอลลาร์) ในไตรมาสแรก ส่วนในปี 2552 ออสเตรเลียมีหนี้สินต่างประเทศสุทธิ 6.24 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (5.59 แสนล้านดอลลาร์)
อย่างไรก็ตาม รายงานของสำนักงานสถิติฯ ระบุว่า ออสเตรเลียมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่ำสุดในรอบมากกว่า 8 ปี เพราะได้แรงหนุนจากราคาสินค้าส่งออกที่สูงขึ้นและการค้าที่แข็งแกร่งช่วยนำเงินเข้าประเทศ
ทั้งนี้ ออสเตรเลียมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวน 5.64 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (5.05 พันล้านดอลลาร์) ในไตรมาสที่ 2 ลดลงเหลือเพียง 1 ส่วน 3 ของไตรมาสก่อนที่มียอดขาดดุล 1.6457 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.4747 หมื่นล้านดอลลาร์)
ด้านธนาคารเวาสต์แพค ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคาร 5 อันดับแรกของออสเตรเลีย เชื่อว่าราคาสินค้าที่สูงขึ้นจะช่วยลดยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในปัจจุบัน
โดยธนาคารระบุในรายงานการวิจัยวว่า "ราคาสินค้าส่งออกที่สูงขึ้นในหมวดสินแร่เหล็กและถ่านหิน ประกอบกับการส่งออกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีมูลค่าสูงกว่าคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของการนำเข้าของเราและราคาสินค้านำเข้าที่ถูกกว่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับอานิสงจากค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่อ่อนตัว"
ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียระบุว่า ยอดการนำเข้าของออสเตรเลียมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 17.3% ในขณะที่การส่งออกมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4.7% สำนักข่าวซินหัวรายงาน