นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้ายกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศติดอันดับ 1 ใน 15 ประเทศแรกของโลกภายในสิ้นปีนี้ โดยขยับขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ในอันดับ 26 ของโลก โดยกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันทำงานให้หนักขึ้น
"เราต้องขยับขึ้นได้แล้ว ปีนี้เราต้องพยายามให้ได้และมุ่งมั่นต่อไป 1 ใน 15 ไม่ไกลเกินความเป็นจริง แต่จะเกิดขึ้นได้ต้องลงมือทำงานหนักมาก" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนหนึ่งระหว่างการปาฐกถาพิเศษเรื่อง"การขับเคลื่อนประเทศไทยท่ามกลางความท้าทาย" ในงาน Thailand Competitiveness Conference 2010
โดยแนวทางการบริหารงานของรัฐบาลที่จะมีส่วนช่วยผลักดันในเรื่องนี้ ได้แก่ การปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ เพื่อลดปัญหาความซ้ำซ้อน ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ รวมทั้งการปรับปรุงค่าตอบแทน ค่าแรง และกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญในการเชื่อมโยงงานด้านการวิจัยและพัฒนา(R&D) ให้เข้ากับการประกอบการภาคอุตสาหกรรมและการค้า โดยมีการจัดตั้งคลังข้อมูลด้านงานวิจัย เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้ภาคเอกชนนำไปต่อยอดในการประกอบธุรกิจของตนเองได้ และนโยบายการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ให้นำไปสู่ภาคปฏิบัติมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาในเรื่องระบบธรรมาภิบาล หรือการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งภาคเอกชนเองก็เสนอตัวที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแล้วคาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ปีนี้จะขยายตัวอย่างน้อย 7.0-7.5% เพิ่มจากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.5-4.5% ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่มีการขยายตัวค่อนข้างสูง และในปีหน้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเริ่มชะลอตัวลงในระยะกลางและระยะยาว โดยคาดว่า GDP จะอยู่ที่ 4.5-5.0%