ก.เกษตรฯ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เน้นแจ้งเตือนเหตุล่วงหน้าป้องกันความเสียหาย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 1, 2010 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด ซึ่งมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัด เป็นผู้อำนวยการศูนย์เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยและติดตามข้อมูลรอบด้านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2553 จะมีปริมาณฝนมากกว่าปกติ รวมถึงมีพายุหมุนเขตร้อนทำให้เกิดฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งในบางพื้นที่ได้ ซึ่งหากเกิดสถานการณ์อุทกภัย ให้ดำเนินการตาม “แผนปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร" ของแต่ละจังหวัด ที่วางมาตรการช่วยเหลือเอาไว้แล้วอย่างชัดเจนทั้งด้านน้ำ พืช ปศุสัตว์ ประมง

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ที่มีเขตรับผิดชอบเกิดเหตุประสบภัยน้ำท่วมทั้งในภาคกลางและภาคเหนือ เร่งลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และให้ความดูแลเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและเกษตรกรอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนผ่านวิทยุชุมชน หอกระจายข่าว รวมทั้งอาสาเกษตรในพื้นที่ ให้เกษตรกรได้เตรียมรับสถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยให้เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการเก็บเกี่ยวผลผลิต จับสัตว์น้ำในกระชังตามแม่น้ำต่างๆ ขายก่อนเกิดภัย หรือจัดเตรียมสถานที่อพยพสัตว์ตลอดจนอาหารสัตว์ และทำงานควบคู่ไปกับศูนย์ประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์ในลำน้ำ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนบริเวณแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมที่มีปริมาณฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยให้โครงการชลประทานจังหวัดในพื้นที่ประสานกับจังหวัด แจ้งเตือนเกษตรกรตามริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองแห่ง เตรียมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง

นอกจากนั้น ได้สั่งการให้มีการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ ผลกระทบด้านการเกษตร ตลอดจนปรับแผนปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอด้วย ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมตั้งแต่วันที่ 25-30 สิงหาคม 2553 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ พิจิตร เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สระบุรี และนครนายก

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 5 จังหวัด ได้แก่ จ.สระบุรี ประสบภัย จำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านหมอ วิหารแดง หนองแค สถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ 2-3 วัน, จ.แพร่ ประสบภัย1 อำเภอ คือ อ.เมือง ต.ป่าแมต คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้

จ.สุโขทัย ประสบภัย 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง และกงไกรลาส แนวโน้มสถานการณ์น้ำเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ 4-5 วัน, จ.พิจิตร ประสบภัย 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ดงเจริญ สากเหล็ก วังพูนทราย ทับคล้อ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ และ จ.พิษณุโลก ประสบภัย 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บางระกำ และเนินมะปราง แนวโน้มสถานการณ์น้ำเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ 1-2 วัน

สำหรับผลกระทบด้านการเกษตร ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2553 แบ่งออกเป็น ด้านพืช เกษตรกร 59,343 ราย พื้นที่ 403,759 ไร่ ด้านประมง เกษตรกร 4,208 ราย พื้นที่ 2,800 ไร่ 5,528 ตร.ม. ด้านปศุสัตว์ เกษตรกร 5,585 ราย สัตว์ 145,346 ตัว ได้มีการส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่ต่างๆ จำนวน 584 เครื่อง ใน 52 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 174 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 202 เครื่อง ภาคกลาง 73 เครื่อง ภาคตะวันออก 47 เครื่อง ภาคใต้ 88 เครื่อง ช่วยเหลือพืชอาหารสัตว์ จำนวน 12.20 ตัน แร่ธาตุและเวชภัณฑ์ 32 ชุด และดูแลสุขภาพสัตว์ 3,198 ตัว ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและอุตรดิตถ์

ทั้งนี้ ได้สำรองเสบียงสัตว์ไว้ตามศูนย์วิจัยพัฒนาอาหารสัตว์และสถานีพัฒนาอาหารสัตว์ 29 แห่ง จำนวน 8,335.63 ตัน แบ่งเป็น หญ้าแห้ง 3,625.35 ตัน หญ้าหมัก 18.78 ตัน และหญ้าสด 4,691.50 ตัน โดยเฉพาะเขต 5 และ 6 พื้นที่ศูนย์ฯ ลำปาง สถานีฯ แพร่ สถานีฯ สุโขทัย สถานีฯเพชรบูรณ์ สถานีฯ พิจิตร) จำนวน 1,167.18 ตัน ซึ่งสามารถช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามคำร้องขอ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ