ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโรหลังภาคการผลิตสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 2, 2010 07:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง และหันไปถือครองสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงกว่า รวมถึงยูโร อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพด้านการเมืองของญี่ปุ่นและความเป็นไปได้ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน

ค่าเงินยูโรพ่งขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2803 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร (31 ส.ค.) ที่ 1.2685 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.64% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5447 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5349 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.400 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 84.160 เยน และขยับขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0148 ฟรังค์ จากระดับ 1.0140 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8906 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้น 1.73% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7111 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6990 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.3 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 55.5 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 53.0 จุด

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากนายอิชิโร่ โอซาว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (ดีพีเจ) กล่าวว่า ญี่ปุ่นควรจะใช้มาตรการในตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อสกัดการแข็งค่าขึ้นของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินหลักอื่นๆ

นอกจากนี้ เงินเยนยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่น รวมถึงการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคดีพีเจระหว่างนายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโอซาว่า ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 ก.ย.นี้

ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) เปิดเผยรายงานว่า มูลค่าการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศทั่วโลกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3.98 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวันภายในช่วงเวลา 3 ปีที่สิ้นสุด ณ เดือนเม.ย.2553 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่ระดับ 334 ล้านล้านดอลลาร์ แม้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลงก็ตาม

BIS ระบุว่า ตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นมีภาวะการซื้อขายที่แข็งแกร่งมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากอังกฤษและสหรัฐ โดยปัจจัยที่ทำให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นมาจากกลุ่มสถาบันการเงินนอกภาคการธนาคาร กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ และกองทุนบำเน็จบำนาจได้เข้ามาทำธุรกรรมซื้อขายกันอย่างคึกคัก ซึ่งมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนทั้ง 3 กลุ่มนี้รวมกันเพิ่มขึ้น 42% ซึ่งสูงกว่ามูลค่าการทำธุรกรรมในตลาดอินเตอร์แบงค์

นอกจากนี้ BIS เปิดเผยว่า ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดปริวรรตเงินตราทั่วโลก ด้วยสัดส่วน 84.9% รองลงมาคือสกุลเงินยูโร 39.1% และเงินเยน 19.0%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนส.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.จะร่วงลง 100,000 ตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ