องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยว่า ราคาอาหารทั่วโลกในระหว่างเดือนก.ค. - ส.ค.ปีนี้ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งในรัสเซียซึ่งทำให้ราคาข้าวสาลีสูงขึ้น
รายงานของ FAO ระบุว่า ดัชนีราคาอาหารทั่วโลกในช่วงเดือนก.ค. - ส.ค. พุ่งขึ้น 5% ในช่วงเดือนก.ค. - ส.ค. แต่ดัชนียังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิถุนายน 2551 อยู่ประมาณ 38%
ทั้งนี้ ภาวะแห้งแล้งในรัสเซียซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต้องประกาศระงับการส่งออกข้าวสาลีนั้น ส่งผลให้ราคาข้าวสาลีพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ราคาอาหารในหมวดน้ำตาลและน้ำมันจากเมล็ดพืชก็ปรับเพิ่มเช่นเดียวกัน
นายอับดุลเรซา อับบาสเซียน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาอาหารทั่วโลกเคลื่อนตัวผันผวนมาก โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2551 ต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นและความต้องการเชื้อเพลิงชีวภาพที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลให้สต็อกอาหารร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2525
อย่างไรก็ตาม สต็อกอาหารทั่วโลกในปัจจุบันมีปริมาณเพิ่มขึ้น และแม้ว่ามีการคาดการณ์ว่าการผลิตธัญพืชทั่วโลกจะลดลงในปี 2553 แต่ปริมาณสต็อกอาหารทั่วโลกก็มีแนวโน้มที่จะยืนอยู่ในระดับที่สูงมาก