World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 2, 2010 09:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 250 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) ขานรับรายงานภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐและจีน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก แม้มีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานในเดือนส.ค.ก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 254.75 จุด หรือ 2.54% ปิดที่ 10,269.47 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 30.96 จุด หรือ 2.95% ปิดที่ 1,080.29 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 62.81 จุด หรือ 2.97% ปิดที่ 2,176.84 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและดีมานด์พลังงานทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นที่ร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.99 ดอลลาร์ หรือ 2.8% แตะที่ 73.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั่วโลก รวมถึงข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐและจีน ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตที่สดใสของจีนและสหรัฐช่วยหนุสัญญาโลหะทองแดงพุ่งขึ้น เนื่องจากทองแดงเป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับภาคการผลิต

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,248.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,244.10 - 1,256.60 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง และหันไปถือครองสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงกว่า รวมถึงยูโร อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพด้านการเมืองของญี่ปุ่นและความเป็นไปได้ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน

ค่าเงินยูโรพ่งขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2803 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร (31 ส.ค.) ที่ 1.2685 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.64% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5447 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5349 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.400 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 84.160 เยน และขยับขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0148 ฟรังค์ จากระดับ 1.0140 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8906 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้น 1.73% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7111 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6990 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากรายงานภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลจากรายงานที่ว่าภาคการผลิตของอังกฤษชะลอตัวลงในเดือนส.ค.

ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 141.19 จุด หรือ 2.7% ปิดที่ 5,366.41 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,225.22 - 5,366.41 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ