(เพิ่มเติม) "กรณ์"เผยยังไม่มีมาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้า-ออก,สั่งธปท.จับตาเก็งกำไร

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 2, 2010 09:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดเล็กเกี่ยวกับปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมากว่า ที่ประชุมยังไม่ได้สั่งการให้มีมาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้า-ออก แต่ได้ฝากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จับตาความเคลื่อนไหวของเงินบาทอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าอาจจะมีการเข้ามาเก็งกำไร พร้อมทั้งเตรียมมาตรการไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคตด้วย

"เรากังวลว่าในอนาคตถ้ามีแรงกดดันให้เงินบาทแข็งค่าจากการเก็งกำไรหรือการเงินทุนไหลเข้ามาในตราสาร ซึ่งสะท้อนว่ามีแรงกดดันมาจากปัจจัยอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากปัจจัยเศรษฐกิจที่แท้จริง ดังนั้นเราได้ขอให้แบงก์ชาติระมัดระวังเป็นพิเศษ และเตรียมมาตรการป้องกันไม่ให้มีการเก็งกำไร เพราะเกรงว่าจะส่งผลต่อภารธุรกิจในอนาคต"นายกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุม

นายกรณ์ กล่าวว่า จากการหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันของ นายกรัฐมนตรี รองนายกฝ่ายเศษฐกิจ รมว.คลัง ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้ว่าการ ธปท. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เห็นร่วมกันว่า เงินบาทที่แข็งค่าอย่างมากเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในเอเชีย เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐอ่อนแอและภาระหนี้สินสูงมาก ทำให้นักลงทุนลดความเชื่อมั่นในการถือครองดอลลาร์ลง

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแม้ว่าเงินบาทจะปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 6% แล้ว แต่หากเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาคแล้วการแข็งค่าของเงินบาทยังอยู่ในระดับกลาง โดยค่าเงินริงกิตของมาเลเซียแข็งค่ามากกว่า ส่วนอินโดนีเซียแข็งค่าน้อยกว่าเงินบาท แต่โดยรวมแล้วการแข็งค่าของเงินบาทก็ยังถือว่าใกล้เคียงสกุลอื่นในเอเชีย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การแข็งค่าของเงินบาทไม่มีผลกระทบโดยรวมต่อภาคการส่งออกของไทย เนื่องจากการส่งออกของไทยยังขยายตัวอยู่ในระดับสูง สะท้อนว่าขีดความสามารถในการแข่งขันยังดีอยู่ เพราะผลอีกด้ายหนึ่งคือภาคอุตสาหกรรมที่ต้องนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบในจำนวนสูงมีความได้เปรียบจากการที่สามารถนำเข้าวัตถุดิบได้ในราคาที่ต่ำลง โดยรวมแล้ว ยังมองไม่เห็นว่าเงินบาทที่แข็งค่าจะสร้างปัญหาต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้านการส่งออกของไทย

"เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 6% ตั้งแต่ต้นปี แต่การส่งออกยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้นสะท้อนว่า ขีดความสามารถในการส่งออกของไทยยังดีอยู่ ภาคอุตสาหกรรมที่นำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบในจำนวนสูงอาจเสียโอกาสในราคาส่งออกแต่ก็ได้โอกาสจากต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบที่ถูกลง โดยรวมๆ แล้ว ยังไม่เห็นว่าจะสร้างปัญหาให้ขาดความสามารถในการแข่งขัน" รมว.คลัง กล่าว

แต่ทั้งนี้ยอมรับว่า รัฐบาลมีความกังวลและได้ฝากให้ ธปท. จับตาอย่างใกล้ชิดในกรณีที่ในอนาคตค่าเงินบาทแข็งค่าจากการเก็งกำไรในระยะสั้น ซึ่งไม่ได้สร้างผลดีต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นจุดนี้จะต้องเตรียมมาตรการรองรับไว้

"เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาตลอดทั้งปี ไม่ได้เป็นแค่การหลั่งไหลเข้ามาของเงินทุนอย่างเดียว แต่มีผลมาจากการที่ไทยได้ดุลการค้ามากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังด้วยว่า กรณีความเชื่อมั่นมีมากขึ้นจะมีผลให้เงินทุนมีแนวโน้มไหลเข้ามามากขึ้น ซึ่งก็ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าเข้ามาแบบทุนเรือนหุ้น หรือเข้ามาลงทุนในระยะยาว ที่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจก็ไม่มีปัญหา" นายกรณ์ กล่าว

พร้อมระบุว่า มาตรการดูแลค่าเงินบาทที่ ธปท.มีอยู่ในปัจจุบันถือว่าเพียงพอในการสกัดกั้นไม่ให้มีการเข้ามาเก็งกำไรเกินควรเพราะว่าตอนนี้คือยังมองไม่เห็นว่าในลักษณะการเก็งกำไรมาก เพียงแต่ฝากให้ ธปท.พิจารณาเผื่อไว้ พร้อมกำชับให้ ธปท.ระมัดระวังผลกระทบที่จะต่อผู้ส่งออกรายย่อย โดยเฉพาะเรื่องความผันผวนของค่าเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ