บัญชีเดินสะพัดเกินดุลของมาเลเซียลดลง 1.17 หมื่นล้านริงกิต (3.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 42% แตะที่ 1.62 หมื่นล้านริงกิต (5.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
สำนักงานสถิติแห่งชาติของมาเลเซียกล่าวว่า บัญชีเดินสะพัดเกินดุลร่วงลงในไตรมาสดังกล่าวเนื่องจากตัวเลขเกินดุลการค้าและบริการลดลง ขณะที่ตัวเลขขาดดุลการค้าและบริการเพิ่มขึ้น รวมถึงการลดลงของรายได้ไหลเข้าและเงินโอน
โดยตัวเลขเกินดุลจากการขายสินค้าลดลงจาก 3.32 หมื่นล้านริงกิต (1.054 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีที่แล้ว เหลือ 3.08 หมื่นล้านริงกิต (9.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ส่วนตัวเลขเกินดุลจากภาคบริการก็ลดลงจาก 1.5 พันล้านริงกิต (476.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) กลายเป็นขาดทุน 400 ล้านริงกิต (126.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ขณะที่ตัวเลขขาดดุลรายได้ในไตรมาสดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 2.9 พันล้านริงกิต (920.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 8.6 พันล้านริงกิต (2.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนตัวเลขขาดดุลเงินโอนก็เพิ่มขึ้นจาก 3.9 พันล้านริงกิต (1.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 5.6 พันล้านริงกิต (1.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำนักงานสถิติเปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มาเลเซียมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 4.67 หมื่นล้านริงกิต (1.483 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 1.26 หมื่นล้านริงกิต (4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 21.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากการที่รายได้และเงินโอนไหลออกมากขึ้นที่ 1.75 หมื่นล้านริงกิต (5.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 1.11 หมื่นล้านริงกิต (3.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน