กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุน (capital spending) ของภาคเอกชนญี่ปุ่นในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม หดตัว 1.7% ในไตรมาส 2 ปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์มีความระมัดระวังในการลงทุน อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าดีมานด์ในตลาดต่างประเทศและในประเทศอาจชะลอตัวลงในวันข้างหน้า
รายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุน ซึ่งไม่นับรวมตัวเลขการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมการเงินและการประกันภัย อยู่ที่ระดับ 8.3648 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงเป็นไตรมาสที่ 13 ติดต่อกัน
ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนในส่วนของโรงงานและอุปกรณ์ต่างๆ ลดลง 10.5% เป็นการลดลงเป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน ในขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนของภาคบริการเพิ่มขึ้น 3.4% และขยายตัวเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน
ส่วนยอดขายทั้งหมดของทุกอุตสาหกรรมขยายตัว 20.3% แตะ 357.91 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
ทั้งนี้ การสำรวจของกระทรวงการคลังจัดทำโดยการสอบถามบริษัทจดทะเบียน 31,666 บริษัทที่มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 10 ล้านเยนขึ้นไป โดยมีบริษัทที่ตอบรับการสำรวจ 73.8% ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีรายได้ก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 8.34% เป็นการเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน แตะ 13.2745 ล้านล้านเยน
การสำรวจประจำไตรมาสของกระทรวงการคลังเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่ใช้ในการทบททวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สำหรับไตรมาสที่ 2 ซึ่งจมีกำหนดจะเปิดเผยในวันที่ 10 กันยายน
ส่วนรายงานการประเมินตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 เบื้องต้นเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่า จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัว 0.4% ต่อ ซึ่งขยายตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน