นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ความชัดเจนของโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดหลังจากศาลปกครองมีคำตัดสินเมื่อวานนี้และภาครัฐจะมีการประกาศ 11 ประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรง จะช่วยเพิ่มบรรยากาศของการลงทุนของไทยให้ดีขึ้น
"ในขณะนี้ก็มีความชัดเจนขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเมื่อศาลฯมีคำวินิจฉัยและคณะรัฐมนตรีก็ได้ประกาศกิจการที่มีผลกระทบรุนแรง ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการลงทุนต่อไป" นายกฯ ระบุ
สำหรับกรณีที่ภาคประชาชนเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลได้ยึดตามแนวทางของคณะกรรมการ 4 ฝ่ายในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยเล็งเห็นความสำคัญของมาตรการแก้ไขมากกว่าการประกาศหรือไม่ประกาศประเภทกิจการที่มีความรุนแรงด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาและอยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งงานหลักที่รัฐบาลจะต้องเดินหน้าต่อ คือ การบังคับใช้กฎหมายให้ได้ตามมาตรฐาน รวมถึงการเร่งจัดตั้งระบบการแจ้งหรือเตือนภัยให้ได้มาตรฐาน จึงอยากให้ภาคประชาชนเข้ามาติดตามร่วมกับทางรัฐบาลด้วย
พร้อมย้ำว่า เมื่อรัฐบาลได้มีการประกาศประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรงไปแล้ว หากพบว่าไม่ปฎิบัติตามที่ประกาศไป ภาคประชาชนก็สามารถแจ้งหรือให้ความร่วมมือกับรัฐบาลได้