คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนและกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศโควต้าในการนำเข้าสินค้าการเกษตรเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าใหม่สำหรับปี 2553 โดยหน่วยงานทั้ง 2 แห่งได้ผลักดันให้ผู้ที่มีโควต้าได้รายงานโควต้าที่ตนเองยังไม่ได้ใช้สิทธิก่อนที่จะถึงวันที่ 15 ก.ย. 2553 เพื่อที่รัฐบาลจะได้จัดโควต้าการนำเข้าเพื่อการจัดกระจายสินค้าใหม่สำหรับข้าวสาลี ข้าวโพด น้ำตาล และฝ้าย
สำหรับผู้ที่สมัครขอโควต้าใหม่จะต้องยื่นเอกสารให้กับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานในระดับมณฑลของตนเองในวันที่ 1-15 ก.ย. 2553 โดยขั้นตอนการจัดจำหน่ายสินค้าใหม่คาดว่าจะแลวเสร็จก่อนที่จะถึงวันที่ 1 ต.ค. 2553
-- สมาคมน้ำตาลจีนชี้ว่า จีนได้จำหน่ายน้ำตาล 9.935 ล้านตันในช่วงสิ้นเดือนส.ค.นี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าสถิติเมื่อปี 2551/2552 ที่ 11.407 ล้านตัน โดยในช่วงฤดูการหีบอ้อยเมื่อปี 2552 / 2553 จีนสามารถผลิตน้ำตาลได้ 10.738 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงไปจากผลผลิตเมื่อปี 2551-2552 ที่ 12.431 ล้านตัน
-- จีนวางแผนที่จะจัดประมูลขายน้ำตาล 240,000 ตันในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นน้ำตาลล็อตที่ 8 ที่จะมีการนำมาประมูลจากสต็อกน้ำตาลในช่วงฤดูการหีบอ้อยเมื่อปี 2552-2553
แถลงการณ์ร่วมของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคลังจีนเปิดเผยว่า น้ำตาลจากสต็อกจะถูกนำไปจำหน่ายให้กับผู้ผลิตอาหารที่ราคาพื้นฐานที่ 4,000 หยวนต่อตัน
-- สมาคมฝ้ายของจีนคาดการณ์ในรายงานที่ได้มีการเปิดเผยทางเว็บไซต์ของสมาคมฯว่า ราคาฝ้ายของจีนจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงในช่วงปีผลผลิตประจำปี 2553-2554 แม้ว่าสถาบันต่างๆจะได้มีการคาดการณ์เรื่องผลผลิตที่สูงขึ้น
ผลผลิตฝ้ายในซินเจียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกฝ้ายรายใหญ่สุดในจีน คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านตันในปีนี้
ผลการสำรวจพื้นที่ในซินเจียงชี้ว่า ต้นทุนการเพาะปลูกที่สูงขึ้น ทำให้มีการคาดการณ์ในกลุ่มผู้ปลูกฝ้ายว่า ราคาฝ้ายจะสูงขึ้นในปีนี้ ขณะที่โรงปั่นใยฝ้ายก็พร้อมที่จะรับซื้อฝ้าย เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้นในปี 2552 - 2553
ทั้งนี้ การผลิตฝ้ายในซินเจียงคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ของการผลิตทั้งหมดในจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน