Xinhua's Interview: อานิสงส์เศรษฐกิจจีนเฟื่องฟู หนุนธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าหรูเบ่งบาน

ข่าวต่างประเทศ Monday September 6, 2010 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานบริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรูหราราคาแพงรายใหญ่ของฮ่องกงชี้ ตลาดจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ประกอบกับบรรดาเศรษฐีใหม่ในจีนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ได้ช่วยหนุนการเติบโตของธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยได้อย่างมหาศาล

ไอแวน ตง ประธานบริษัท สปาร์เคิล โรลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยรายใหญ่ในประเทศจีนกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า "ลูกค้าชาวจีนชื่นชอบการจับจ่ายซื้อสินค้าหรูหรามากกว่าลูกค้าจากประเทศอื่นๆ"

โดยตงได้กล่าวยกเครดิตให้กับภาวะเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูของจีน ซึ่งทำให้บริษัทมีผลประกอบการในปีงบการเงินที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.2553 พุ่งทะยานขึ้นเกือบ 100% จากปีก่อนหน้านี้แตะที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง

ทั้งนี้ สปาร์เคิล โรลล์ เป็นบริษัทจากฮ่องกงที่หันมาจับธุรกิจผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรูชื่อดังผ่านการเข้าซื้อกิจการเอเย่นต์รถยนต์เมื่อปี 2551 เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพการขยายตัวของธุรกิจสินค้าหรูหราในจีนแผ่นดินใหญ่ ทุกวันนี้บริษัทแตกไลน์สินค้าชั้นสูงที่จัดจำหน่ายออกเป็นหลายกลุ่มด้วยกัน อาทิ รถยนต์ นาฬิกาข้อมือ เครื่องประดับอัญมณี และไวน์ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นเจ้าของธุรกิจเหมือง ลูกหลานตระกูลเศรษฐี เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ นักธุรกิจการเงิน และเจ้าของกิจการต่างๆ

ด้านรายงานความเคลื่อนไหวเชิงพาณิชย์ของจีนประจำปี 2552-2553 ของสถาบันสังคมศาสตร์ที่เผยแพร่เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้ระบุว่า จีนอาจขึ้นแท่นเป็นตลาดสินค้าหรูรายใหญ่ที่สุดในโลกใน 5 ปี เมื่อพิจารณาจากมูลค่าในตลาดสินค้าหรูของจีนที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 27.5% ของตลาดสินค้าหรูทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถเบียดสหรัฐขึ้นรั้งตำแหน่งตลาดสินค้าหรูรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่น

ภายในระยะเวลา 5 ปี มูลค่าตลาดสินค้าหรูในจีนจะเพิ่มขึ้นแตะ 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้จีนกลายเป็นตลาดสินค้าหรูรายใหญ่ที่สุดในโลก รายงานระบุ

"ชาวจีนได้รับอานิสงส์จากการปฏิรูปเศรษฐกิจในประเทศมากว่า 30 ปีนับตั้งแต่ปี 2521 ซึ่งทำให้ขณะนี้จีนมีเศรษฐีเกิดขึ้นหลายต่อหลายคน" ตงกล่าวพร้อมทั้งชี้ว่า "จีนเคยเป็นประเทศที่ถูกมองว่าเป็นโรงงานอุตสาหกรรมของโลก แต่หารู้ไม่ว่าจีนนี่แหละเป็นประเทศที่มีความต้องการอยู่มากมายมหาศาล และตอนนี้สิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มคนรวยส่วนใหญ่ในจีนไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกเลยด้วย"

ด้านนักธุรกิจอาวุโสผู้หนึ่งที่คุ้นเคยอยู่ในวงการอุตสาหกรรมสินค้าหรูระดับโลกเล่าให้ตงฟังว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจของจีนและการขยายตัวของสินค้าหรูในจีนเติบโตขึ้นในระดับที่น่าพอใจ ขณะที่ปัจจัยหนุนลักษณะนี้ที่เคยเกิดขึ้นในญี่ปุ่นเริ่มแผ่วลงแล้ว ส่วนตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดียยังยากที่จะก้าวขึ้นมาแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ อย่างไรก็ตาม ตงมองว่าตลาดในจีนยังไม่โตเต็มที่ แต่อาจต้องใช้เวลา 5 - 10 ปีจึงจะก้าวไปอยู่ในจุดที่โตขึ้นได้อย่างเต็มตัว ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นครอบครัวชนชั้นกลางก็สามารถเป็นเจ้าของสินค้าหรูหราได้

นอกจากนี้ ตงได้ให้คำตอบเรื่องการที่ลูกค้าเลือกใช้สินค้าหรูแทนสินค้าทั่วไปว่า นับตั้งแต่จีนเป็นประเทศเปิดตลาดเสรี ทุกคนมีโอกาสซื้อสินค้าหรูและมีเหตุผลในการเลือกซื้อแตกต่างกัน โดยบางกรณีก็ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเพื่อเป็นของขวัญให้กับตัวเองหลังทำงานหนักมาหลายปี ขณะที่บางคนซื้อสินค้าหรูเพื่อแสดงออกถึงความมีหน้ามีตาและเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ ถึงกระนั้นตงกล่าวติติงไปยังกลุ่มผู้ซื้อที่มองแต่ราคามากกว่าประโยชน์ใช้สอยว่ายังขาดความเป็นผู้ใหญ่ โดยแนะว่า "ผู้ซื้อต้องเข้าใจว่าตัวเองกำลังซื้ออะไร นอกจากนี้ยังต้องตระหนักถึงคุณค่าในตัวสินค้า ความโดดเด่น การใช้งาน และอื่นๆ ส่วนเรื่องราคาค่อยมาว่ากันทีหลัง"

ขณะเดียวกันตงกล่าวว่า ผู้จำหน่ายสินค้าหรูต้องมีความรับผิดชอบในงานที่ทำ เนื่องจากการให้บริการเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ โดยผู้ขายต้องแนะให้ลูกค้าตระหนักถึงคุณค่าในการใช้สินค้าหรูหราด้วย

"ผมดีใจที่เห็นว่ายังมีกลุ่มมหาเศรษฐีชาวจีนหลายคนที่ไม่ได้หลับหูหลับตาซื้อสินค้าต่างๆตามกระแส แต่เลือกที่จะซื้อสินค้าเพราะเข้าใจถึงคุณค่าในการออกแบบและประโยชน์ใช้สอย" ตงกล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ