ผู้เชี่ยวชาญจากจีนระบุ วิกฤตการเงินในตลาดโลกจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านปัจจัยพื้นฐานของระบบการเงินในประเทศต่างๆ และจะปูทางให้จีนมีโอกาสผลักดันสถานะเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินที่มีอิทธิพลต่อตลาดเงินทั่วโลกมากขึ้นในเวลาต่อมา
หลี เตากุย สมาชิกคณะกรรมาธิการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางแสดงความเห็นว่า เป็นธรรมดาที่ตลาดเงินทั่วโลกจะมีระบบการเงินที่แตกต่างกัน ขณะที่การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐจะทำให้ระบบการเงินโลกเผชิญกับภาวะสภาพคล่องส่วนเกิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสถานะของเงินดอลลาร์และเงินยูโรในระยะยาว
ขณะเดียวกัน จีนอาจก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีอิทธิพลมากขึ้นผ่านการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศในแอฟริกา อย่างไรก็ตาม จีนยังไม่มีทีท่าว่าจะขอเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในการประชุมสุดยอดจี20 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้เดือนพ.ย.นี้ แต่อย่างใด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันจีนมีสัดส่วนการถือครองหุ้นในไอเอ็มเอฟอยู่ 3.65% ขณะที่สหรัฐและญี่ปุ่นถือหุ้นในไอเอ็มเอฟที่ 17.09% และ 6.13% ตามลำดับ