ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคชะลอตัวลงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
รายงาน Beige Book ฉบับล่าสุดเป็นการรวบรวมข้อมูลทางเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค.จนถึงช่วงปลายเดือนส.ค. โดยรายงานระบุว่า แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีการขยายตัว แต่ในหลายภูมิภาคก็พบว่าชะลอตัวลงด้วย
หากแยกเป็นรายภูมิภาคพบว่า เศรษฐกิจใน 5 เขต คือเซนต์หลุยส์ มินเนอาโพลิส แคนซัสซิตี้ ดัลลัส และซานฟรานซิสโก มีอัตราการขยายตัวในระดับปานกลาง ซึ่งเป็นสถิติที่ซบเซาลงเมื่อเทียบกับการรายงานครั้งก่อนที่ระบุว่า เศรษฐกิจใน 10 เขตของสหรัฐมีการขยายตัวปานกลาง
ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในภูมิภาคส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้นแม้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายในสิ่งของที่ไม่จำเป็น ส่วนกิจกรรมด้านการผลิตยังคงมีการขยายตัวในภูมิภาคส่วนใหญ่ ขณะที่ยอดการขายบ้านชะลอตัวลงหลังจากนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหมดอายุลงในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ หลังจากเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ความไม่นอนอย่างไม่ปกติ" อันเป็นผลมาจากภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงตกต่ำ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาคครัวเรือนจับจ่ายใช้สอยน้อยลงและทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะที่เปราะบางมาก
เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0 - 3.5% ซึ่งน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวราว 3.2 - 3.7% นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานในสหรัฐว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.2 - 9.5% ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 9.1 - 9.5%
ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ค. นี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน