นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อปรับเปลี่ยนราคาแอลพีจี หลังสิ้นสุดการตรึงราคาในเดือน ก.พ. 54โดยจะให้กระทบต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด โดยแนวทางจะดูทั้งระดับราคาขายแก่ผู้บริโภคว่าจะมีการแยกราคาระหว่างอุตสาหกรรมและครัวเรือน-ภาคขนส่ง รวมถึงราคาหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติและโรงกลั่นน้ำมัน
"ยอมรับว่าจากราคาที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 333 ดอลลาร์/ตันนั้น ส่งผลให้ปริมาณแอลพีจีออกมาจำหน่ายน้อยลง เพราะมีการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงกลั่นและนำไปส่งเป็นวัตถุดิบโรงงานปิโตรเคมีมากขึ้น"รมว.พลังงาน กล่าว
นพ.วรรณรัตน์ ยังคาดว่า โรงแยกก๊าซก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 6 จะสามารถเปิดดำเนินกิจการได้ภายใน 1 เดือน หลังจากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งจะทำให้สามารถผลิตแอลพีจีทดแทนการนำเข้าได้ประมาณ 80,000- 100,000 ตันต่อเดือน และยอมรับอาจปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีหน้าโรงกลั่นฯ/โรงแยกให้เหมาะสม
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงพลังงาน ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการประมูลการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงในแท็กซี่จากแอลพีจี เป็นเอ็นจีวี จำนวน 30,000 คัน หลังจากภาคเอกชนร้องเรียนว่าการประมูลไม่โปร่งใส พบว่าปัญหาเกิดในช่วงประมูลอี-ออกชั่น และส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณา ซึ่งหากได้คำตอบว่าควรยกเลิกการประมูลแล้วจัดประมูลใหม่ กระทรวงพลังงานก็พร้อมยกเลิกและจะได้เดินหน้าประมูลอีกรอบ ซึ่งหากทำได้เร็วก็จะลดการใช้แอลพีจีได้อีกมาก