(เพิ่มเติม) ม.หอการค้าฯ เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.53 ที่ 72.8 จาก 71.4 ในก.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 9, 2010 13:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ส.ค.53 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 72.8 สูงขึ้นจากเดือน ก.ค.53 ซึ่งอยู่ที่ 71.4 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมในเดือนสิงหาคม 53 ถือว่าปรับตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 49 ที่ประชาชนไม่มั่นใจในระบบเศรษฐกิจและการเมือง แต่ปัจจุบันความเชื่อมั่นเริ่มกลับมาอย่างมีนัยสำคัญ เพราะหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ตามลำดับ โดยคาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 4 จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง" นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจฯ กล่าว

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 71.6 สูงขึ้นจาก 70.1 ในเดือน ก.ค.53 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 98.1 สูงขึ้นจาก 96.4 ในเดือน ก.ค.53 เช่นกัน

สำหรับปัจจัยบวกที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ส.ค.53 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ปี 53 จาก 3.5-4.5% เป็น 7.0-7.5%, ครม.อนุมัติขยายเวลาจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มคงไว้ที่ 7% ต่อไปอีก 2 ปี, ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศปรับตัวลดลง, คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25%, การส่งออกในเดือน ก.ค.ยังขยายตัวได้ดี และโครงการไทยเข้มแข็งเริ่มมีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบ

ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูง, สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในกทม., การชะลอโครงการลงทุนในมาบตาพุด และความไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนส.ค.53 ที่ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ น่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้นจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกรายการโดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคตที่ปรับตัวดีขึ้นมาก

นายธนวรรธน์ คาดว่า การบริโภคของภาคประชาชนยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยอยู่ แต่จะเริ่มบริโภคมากขึ้นเป็นลำดับในไตรมาส 3 ของปีนี้ เพราะดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการมีค่าต่ำกว่าระดับปกติที่ 100

อย่างไรก็ดี การที่ความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคตทำให้คาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้ การบริโภคของภาคเอกชนจะกลับมาคึกคักมากขึ้น หากสถานการณ์ทางการเมืองรวมทั้งปัจจัยลบต่างๆ คลี่คลายลงในระยะเวลาอันสั้น คาดว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้นในเร็วๆนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ