นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่เงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ไม่ได้อยู่เหนือจากความคาดหมาย ซึ่งได้ให้แนวทางกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ไปแล้วว่าสามารถพิจารณาใช้มาตรการดูแลเงินทุนไหลเข้า-ออกได้หากมีความจำเป็น โดยขณะนี้แนวโน้มค่าเงินบาทยังแข็งค่าอยู่บ้าง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะแข็งค่าไปถึงระดับ 29 บาทหรือไม่
"ได้บอกกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยถ้าหากมีความจำเป็นก็สามารถตัดสินใจ(ใช้มาตรการ)ได้...บอกไม่ได้ว่าจะแตะ 29 หรือไม่ แต่แนวโน้มการแข็งค่ามีอยู่บ้าง"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนสาเหตุที่เงินบาทแข็งค่าในขณะนี้จะเป็นเพราะการเข้ามาเก็งกำไรหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเก็งกำไรก็มีเงื่อนไขจากตัวพื้นฐานด้วย ซึ่งจำเป็นต้องดูหลายตัวชี้วัดทั้งการเคลื่อนไหวของค่าเงินภูมิภาคเพื่ออ้างอิงและเทียบเคียงกัน รวมถึงในแง่ของการซื้อขายเงินว่าเป็นคนภายในประเทศเองหรือเป็นการซื้อขายมาจากต่างประเทศ และผู้ส่งออกที่ขายดอลลาร์เป็นใคร ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดก็จะนำมาพิจารณาเพื่อดูความจำเป็นในการกำหนดมาตรการต่อไป
สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมองว่าไม่ได้ถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินบาทมากนัก
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ทางหอการค้าไทยคาดการณ์ว่าเงินบาทอาจแข็งค่าไปถึง 29.80 บาท/ดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4/53 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้เรามีการเกินดุลฯ อยู่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียดว่าเงินบาทจะไปอยู่ที่ระดับใด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการที่เงินบาทแข็งค่าอย่างหนักนั้น ทางการจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป เพราะผู้ที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงอาจเป็นกลุ่มเฉพาะ เช่น ผู้ส่งออกที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก อาจจะกระทบรุนแรง ซึ่งเราต้องดูว่าจะช่วยเหลืออะไร แต่คงไม่ใช่ลักษณะเหมารวม