รัฐสภาแห่งสหภาพยุโรป หรือ อียู กล่าวว่า อยากเห็นอัตราการจ้างงานของอียูเพิ่มขึ้นเป็น 75% ภายในปี 2563 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง
โดยเอกสารแนะแนวทางแก้ปัญหาการจ้างงานของรัฐสภาอียู ระบุว่า "ประเทศสมาชิกควรสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นให้ถึง 75% ของจำนวนประชากรในวัยทำงาน" ในขณะที่การจ้างงานในส่วนของกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงประชากรวัย 15-25 ปี พนักงานสูงอายุระหว่าง 50-64 ปี แรงงานหญิงที่มีทักษะต่ำ ผู้พิการ และแรงงานอพยพ ควรต้องปรับเพิ่มขึ้น 10% ภายในปี 2557
ทั้งนี้ คู่มือแนะแนวทางการจ้างงานถือเป็นยุทธศาสตร์การเพิ่มตำแหน่งงานในยุโรปในปี 2563 ซึ่งถือเป็นแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจของอียูในทศวรรษหน้า โดยคู่มือดังกล่าวได้กำหนดเป้าหมายให้ประเทศสมาชิกต้องบรรลุเป้าหมายในส่วนของการจ้างงานและพัฒนาสังคม ภายใต้แนวทางการจ้างงานสำหรับชาวยุโรปที่มีอายุระหว่าง 20-64 ปี ที่ควรเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันในระดับต่ำกว่า 70% เป็น 75% ภายในปี 2563
นอกจากนี้ รัฐสภาอียูยังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกลดอัตราการหยุดเรียนกลางคันลงให้เหลือต่ำกว่า 10% ภายในปี 2563 เพื่อรับประกันว่า 90% ของราษฎรอายุระหว่าง 15-24 ปี ได้รับการศึกษา การฝึกอบรม และการจ้างงานอย่างทั่วถึง
ในส่วนของการลดปัญหาความยากจนนั้น รัฐสภาอียูแนะนำว่ารัฐบาลของประเทศสมาชิกควรมีเป้าหมายลดจำนวนประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำลงอีก 25% ซึ่งจะช่วยให้ประชาชกว่า 20 ล้านคนพ้นจากปัญหาความยากจน
ทั้งนี้ คู่มือกลยุทธ์การจ้างงานระบุว่า "ประเทศสมาชิกต้องให้ความสำคัญต่อประชาชนที่มาจากครอบครัวยากจนรวมถึงเยาวชนที่ยากจน" สำนักข่าวซินหัวรายงาน