นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต มีมติไม่อนุโลมให้เกษตรกรในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากที่ปลูกข้าวนาปรัง ครั้งที่ 2 หรือรอบที่ 2/2 ในช่วงก่อนเดือนพฤษภาคม 2553 มีสิทธิเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2552/53 รอบที่ 2 อีกครั้ง แม้ว่าจะใช้สิทธิไม่เกิน 2 ครั้งก็ตาม
เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว รัฐบาลมีนโยบายไม่ให้เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังครั้งที่ 2 เพื่อลดปัญหาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับข้าวของเกษตรกร เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่จะส่งให้เกษตรกรมีน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อการทำนา รวมทั้งเพื่อเป็นการพักดินและตัดวงจรการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล อีกทั้งเกษตรกรที่มีปัญหาร้องเรียนส่วนใหญ่ได้เก็บเกี่ยวข้าวเกือบหมดแล้ว หากจะอนุโลมให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการอาจจะทำให้มีปัญหาการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร คณะอนุกรรมการฯ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรทำการสำรวจ และจัดทำข้อมูลการปลูกข้าวในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และในพื้นที่ปลูกข้าวแบบนาหว่านสำรวย เป็นรายตำบล อำเภอ จังหวัด รวมทั้งให้กรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับกรมการข้าว สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมชลประทาน และ ธกส. พิจารณากำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติของเกษตรกรให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป็นรายพื้นที่ สำหรับการใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในประเด็นช่วงเวลาการปลูกข้าวของเกษตรกรให้เหมาะสมในรอบต่อไป
สำหรับสถานการณ์การผลิตข้าวไทย ข้าวนาปี ปี 2553/54 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้คาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่ปลูก 57.04 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 22.94 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ลดลงร้อยละ 0.79,1.36 และ 0.05 ตามลำดับ เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2553 และวิกฤตน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
ส่วนข้าวนาปรัง ปี 2553 คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 82,497 ตัน สำหรับปี 2554 คาดว่าจะมีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 12.4 ล้านไร่ ผลผลิต 8.467 ล้านตัน
สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2553/54 รอบที่ 1 ณ วันที่ 3 กันยายน 2553 ได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จำนวน 62 จังหวัด และจังหวัดชุมพร จำนวน 1,138,445 ราย รวมพื้นที่ 21,563,566.75 ไร่ และขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภาคใต้จำนวน 1,389 ราย พื้นที่ 16,877.50 ไร่